อนันดาฯ วิ่งฝุ่นตลบ เร่งสางความเดือดร้อน "ลูกบ้าน" แอชตัน อโศก เบื้องต้น เจ้าของร่วม ตั้่งทีมกฎหมายหาทางออกให้โครงการ พร้อมเจรจากับ 9 ธนาคาร หามาตรการช่วยเหลือทั้งระยะสั้น และระยะยาว หลัง 9 แบงก์ปล่อยกู้ลูกค้าซื้อห้องชุดไปแล้ว 3,000 ล้านบาท แหล่งข่าวในวงการการเงิน ชี้เรื่องนี้ยังไม่ถึงที่สิ้นสุด แต่ยืนยันทั้งธนาคารตั้งสำรองไว้สูง วงในอสังหาฯ ชี้แบงก์รายใหญ่เริ่มสำรองลูกหนี้แอชตัน อโศก รีไฟแนนซ์ลำบาก หลักประกันต้องทบทวนใหม่!
หลังจากที่ทีมผู้บริหารระดับสูงของบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ได้พร้อมกันแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม 2564 หลังจากที่ศาลปกครองกลาง เมื่อวันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม 2564 ได้มีคำพิพากษาเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างโครงการแอชตัน อโศก คอนโดมิเนียมหรูสูง 50 ชั้น มูลค่าโครงการทั้งหมด 6,481 ล้านบาท เนื่องจากความกว้างของถนนไม่ถึง 12 เมตร ซึ่งผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารชุด พ.ศ.2522 นั้น
ล่าสุด บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ฯ ในนามผู้บริหารโครงการ แอชตัน อโศก ได้มีการประชุมหารือกับเจ้าของร่วมในการสร้างความเข้าใจและร่วมกันหาแนวทางในการแก้ปัญหาจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยบริษัทฯ ขอแจ้งความคืบหน้าแผนการดำเนินการระหว่างบริษัทฯ และเจ้าของร่วม โดยในขั้นแรกเจ้าของร่วมได้จัดตั้งทีมกฎหมายและคณะทำงานขึ้นมาหนึ่งชุดเพื่อทำงานกับบริษัทฯ ในการร่วมกันหาแนวทางในการเรียกคืนความยุติธรรม ให้โครงการแอชตัน อโศก
นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ รับทราบถึงความเดือดร้อนของเจ้าของร่วมในด้านสินเชื่อ ซึ่งมี 348 ครอบครัวที่ใช้สินเชื่อที่อยู่อาศัยจาก 9 สถาบันการเงิน มีมูลค่ารวมเกือบ 3,000 ล้านบาท บริษัทฯ จึงได้มีการหารือกับธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อดังกล่าวเพื่อเร่งออกมาตรการช่วยเหลือเจ้าของร่วมทั้งในระยะสั้น และระยะยาว โดยมี 9 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงศรี ธนาคารยูโอบี ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารทหารไทยธนชาต ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารออมสิน โดยมาตรการช่วยเหลือสำหรับลูกค้าที่จะทำการ Retention จะมีการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยพิเศษ
อนึ่ง Retention คือ การขอลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้กับธนาคารเดิม เมื่อผ่อนบ้านในอัตราดอกเบี้ยคงที่จนครบ 3 ปีแล้ว จะสามารถทำการยื่นเรื่องกับธนาคารเดิมที่ตนเองกู้บ้านเพื่อขอต่อรองอัตราดอกเบี้ยในเรตต่ำได้ (ทั้งนี้ ทางโครงการแอชตัน อโศก ได้เริ่มโอนห้องชุดให้ผู้จองซื้อตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2561)
บริษัทฯ ในฐานะผู้บริหารโครงการ แอชตัน อโศก จะดำเนินการตามกฎหมายร่วมกันกับเจ้าของร่วมอย่างเต็มที่ เพื่อประโยชน์แก่ลูกค้าและเจ้าของร่วม และจะแจ้งความคืบหน้าในการดำเนินการขั้นตอนต่างๆ ให้ทราบอย่างใกล้ชิดต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา ตัวแทนเจ้าของร่วมและผู้อยู่อาศัย แอชตัน อโศก คอนโดมิเนียม ได้ร่อนเอกสารถึงสื่อมวลชน เรียนแจ้งกับทางลูกบ้านว่า คำสั่งศาลปกครองสูงสุด เป็นเพียงคำตัดสินของศาลชั้นต้นเท่านั้น ยังไม่มีลผลกระทบต่อการอยู่อาศัยของท่านเจ้าของร่วมแต่อย่างใด และผู้บริหารโครงการของบริษัทอนันดาฯ ได้ยืนยันว่า ได้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมายทุกประการ
โดยทางเจ้าของร่วมและผู้อยู่อาศัยเตรียมเปิดใจครั้งแรกในประเด็นเกี่ยวกับผลกระทบที่ลูกบ้านแอชตัน อโศก ได้รับและกำลังเผชิญในขณะนี้ ผ่านการแถลงถ่ายทอดสดผ่าน FB แฟนเพจ "ลูกบ้านแอชตัน อโศก ที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งศาลปกครองกลาง" ในวันอังคารที่ 10 ส.ค.ในเวลา 14.00 น.เป็นต้นไป
แหล่งข่าวในวงการการเงิน ระบุกับ "ผู้จัดการรายวัน360" ว่า เคสที่เกิดขึ้นกับโครงการแอชตัน อโศก แม้ว่าธนาคารจะเป็นหนึ่งในการปล่อยสินเชื่อรายย่อยให้ผู้ซื้อโครงการ แต่ประเด็นใหญ่คงต้องติดตามกับธนาคารบางแห่งที่ปล่อยสินเชื่อพัฒนาโครงการด้วย เนื่องจากธนาคารใหญ่จะมีลูกค้าในกลุ่มนี้ค่อนข้างมาก ขณะที่ของเรามีลูกค้าจากโครงการแอชตัน อโศก จำนวนไม่มาก และตอนนี้ ทางธนาคารยังไม่มีนโยบายอะไรเป็นพิเศษ เนื่องจากไม่ได้มีลูกค้าจำนวนมากเหมือนบางธนาคาร และลูกค้าเหล่านี้ยังผ่อนกับธนาคารอยู่เป็นปกติ วงเงินต่อยูนิตไม่สูงมาก แต่ทั้งนี้ คงต้องไปสอบถามธนาคารรายใหญ่
"ในภาพรวม ธนาคารมีการตั้งสำรองสินเชื่อต่างๆ สูง เงินกองทุนมีสูง ทำให้เรามั่นคงอยู่แล้ว"
แหล่งข่าวอสังหาฯ รายหนึ่ง ระบุกับ "ผู้จัดการรายวัน360" ว่า ตอนนี้ธนาคารรายใหญ่บางแห่งกังวลต่อปัญหาที่เกิดขึ้นกับโครงการแอชตัน อโศก เนื่องจากไม่คิดว่า โครงการคอนโดฯ ระดับไฮเอนด์ ต่อยูนิตราคาสูงจะเกิดปัญหาขึ้น โดยมีความเป็นไปได้ที่ธนาคารจะตั้งสำรองหนี้ลูกค้าที่ขอสินเชื่อในโครงการดังกล่าว ขณะที่สินเชื่อใหม่ที่จะเกิดขึ้นกับการซื้อห้องชุดแอชตัน อโศก จะมีความเข้มงวด เนื่องจากยังอยู่ในกระบวนการทางศาล รวมถึงสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์ ที่อาจจะไม่มีธนาคารใดให้การตอบรับ แม้ว่าโครงการดังกล่าวจะอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพก็ตาม