บ่ายวันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS แจกเอกสารการแถลงข่าวการส่งบริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JTS ลุยธุรกิจขุดบิตคอยน์ ตั้งเป้าปี 2567 จะมีเครื่องขุด จำนวน 50,000 เครื่อง
ข่าวชิ้นนี้ถูกสื่อมวลชนนำเสนออย่างกว้างขวางในทันที และแม้จะเป็นข่าวเชิงบวก แต่ราคาหุ้น JTS กลับไม่มีการตอบรับ แถมยังปรับตัวลง โดยปิดที่ 51.75 บาท/หุ้น ลดลง 1.25 บาท ขณะที่ราคาหุ้น JAS ปิดที่ 2.94 บาท/หุ้น ลดลง 10 สตางค์
ผู้บริหาร JTS ชี้แจงว่า ได้เซ็นสัญญาสั่งซื้อเครื่องขุดบิตคอยน์ จำนวน 500 เครื่อง จะติดตั้งไตรมาสที่ 3 ปีนี้ และต้นปีหน้าจะเสริมอีก 5,000 เครื่อง
ตามแผนการลงทุนธุรกิจเงินสกุลดิจิทัล “บิตคอยน์” ปี 2567 JTS จะมีเครื่องขุดจำนวน 50,000 เครื่อง ทำให้มีกำลังขุดในสัดส่วน 5% ของกำลังขุดทั้งโลก โดยจะขุดได้ปีละประมาณ 16,000 บิตคอยน์
คำนวณจากราคาบิตคอยน์ล่าสุดเหรียญละ 1,056,205 บาท JTS จะมีรายได้เฉพาะการขุดบิตคอยน์ปีละประมาณ 16,899.28 ล้านบาท เรียกว่ารวยจากเหมืองขุดบิตคอยน์กันทีเดียว
เพราะรายได้ของ JTS ปี 2563 มีจำนวนเพียง 309.94 ล้านบาท แต่รายได้จากบิตคอยน์เพียงตัวเดียวเท่ากับรายได้รวมของ JTS ประมาณ 50 ปี
แต่ทำไมนักลงทุนในตลาดหุ้นจึงไม่ฝันละเมอตามผู้บริหาร JAS และ JTS ไม่ไล่เคาะซื้อหุ้นดักเก็งกำไร จะเป็นไปได้หรือไม่ว่าเกิดจากผลพวงพฤติกรรมในอดีต ทำให้นักลงทุนไม่เชื่อถือกลุ่ม JAS
ปลายปี 2558 JAS เข้าร่วมประมูลคลื่น 4 จี และลบคำสบประมาท เพราะสามารถชนะการประมูลเหนือคู่แข่งบริษัทมือถือค่ายยักษ์ใหญ่ได้ ด้วยวงเงินประมูล 75,654 ล้านบาท
วันที่ 21 มีนาคม 2559 JAS เมื่อครบกำหนดชำระเงินงวดแรกให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จำนวนกว่า 8,000 ล้านบาท แต่ JAS กลับเบี้ยว และยอมให้ยึดค่ามัดจำ 644 ล้านบาท
ช่วงระหว่างการประมูลคลื่น 4 จี หุ้น JAS เคลื่อนไหวอย่างร้อนแรง นักลงทุนรายย่อยแห่เก็งกำไรเพราะคาดหวังข่าวดีการชนะประมูล และ JAS ก็ชนะจริง แต่ทิ้งการประมูลภายหลัง ทำให้ราคาหุ้นอ่อนปรับตัวลงต่อเนื่อง จากเคยถูกลากขึ้นไปประมาณ 10 บาท ปัจจุบันทรุดลงมาต่ำกว่า 3 บาท
ส่วนนายพิชญ์ โพธารามิก ผู้ถือหุ้นใหญ่ JAS เคยถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ลงโทษปรับ 160 ล้านบาท ในความผิดปั่นหุ้น JAS และหุ้นบริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MONO และถูกลงโทษปรับประมาณ 60 ล้านบาท ในความผิดนำข้อมูลภายในใช้แสวงหาประโยชน์จากการซื้อขายหุ้น JTS
การออกข่าวลุยธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์กำลังถูกนักลงทุนตั้งปมสงสัย จะเป็นการออกข่าวโดยมีวาระกระตุ้นราคาหุ้น เช่นเดียวกับบริษัทจดทะเบียนนับสิบแห่งที่ออกข่าวลุยธุรกิจกัญชง-กัญชาหรือไม่
และจะซ้ำรอยกรณีหมอบุญ วนาสิน ประธานกรรมการบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ออกข่าวนำวัคซีนไฟเซอร์เข้ามา และผลักดันให้ราคาหุ้น THG พุ่งขึ้นหรือไม่
บิตคอยน์ทั้งโลกมีจำนวนทั้งสิ้น 21 ล้านบิตคอยน์ ถูกขุดขึ้นมาแล้วกว่า 18 ล้านบิตคอยน์ จึงเหลืออยู่อีก 2 ล้านบิตคอยน์เศษ และคำนวณกันว่า จะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 100 ปีจึงขุดจนหมด
เครื่องขุดบิตคอยน์มีราคาตั้งแต่ต่ำกว่า 10,000 บาท จนสูงสุดประมาณเครื่องละ 600,000 บาท ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพ นอกจากนั้น ยังมีค่าใช้จ่ายเรื่องต้นทุนค่ากระแสไฟฟ้า เพราะต้องใช้ไฟสูงมาก
เหมืองขุดบิตคอยน์ในจีนมีความได้เปรียบ ทั้งภูมิประเทศที่อุณหภูมิต่ำกว่า จึงช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าลง และค่าไฟเฉลี่ยตกยูนิตละ 1 บาท ขณะที่ค่าไฟฟ้าของไทยประมาณยูนิตละ 4 บาท
เพียงแต่รัฐบาลจีนมีนโยบายปิดเหมืองขุดบิตคอยน์ จึงทำให้ต้องอพยพเหมืองบิตคอยน์ทั้งหมดออกนอกประเทศ และกำลังถูกจับตาว่า จีนจะย้ายเหมืองไปประเทศไหน
ประเทศไทยไม่มีกฎหมายห้ามตั้งเหมืองขุดบิตคอยน์ ซึ่ง JTS สามารถตั้งเหมืองได้ และเป็นการเพิ่มผู้ขุดบิตคอยน์รายใหม่ขึ้นในโลกที่จะแบ่งสัดส่วนบิตคอยน์ที่จะขุดจากผู้ขุดรายเก่าเท่านั้น
เพราะปริมาณบิตคอยน์ที่จะขุดได้ในแต่ละปีมีจำกัดเท่าเดิม เมื่อมีผู้ขุดรายใหม่ จะต้องแบ่งสัดส่วนจากผู้ขุดรายอื่น
คนในแวดวงธุรกิจเงินสกุลดิจิทัล ประเมินว่าการลงทุนตั้งเหมืองขุดบิตคอยน์ ยังมีความเป็นไปได้ในทางธุรกิจ
แต่ไม่มั่นใจว่า JTS จะทำจริง หรือเป็นเพียงการสร้างข่าว เหมือนเมื่อครั้งประมูล 4 จี โดยเล็งผลเลิศถึงราคาหุ้น JAS และ JTS หรือไม่
และราคาหุ้น JTS ก็ถูกลากขึ้นมารอแมลงเม่าบนยอดดอยแล้ว