ไทยวา ประเมินแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 2/64 มีทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากความต้องการแป้งมันสำปะหลังยังเติบโตเพิ่มขึ้น ขณะธุรกิจส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารมีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นใกล้แตะ 20% จากเดิม 14% ผู้บริหารเผยความต้องการและปริมาณการส่งออกแป้งมันยังเติบโตแกร่ง ผลักดันผลงานปีนี้เข้าเป้ารักษาการเติบโตระดับ Double digit พร้อมการเติบโตของ Margin ได้
นายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 2/2564 ยังมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง ได้รับอานิสงส์จากสถานการณ์ราคาแป้งข้าวโพดปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ความต้องการใช้แป้งมันสำปะหลังและจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ส่งผลให้ธุรกิจอาหารยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 3 ในประเทศไทยนี้ไม่ได้กระทบต่อบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นสินค้าประเภทอาหารและส่วนประกอบในอาหารขั้นพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ขณะที่สินค้าแป้งมันสำปะหลังของบริษัทส่วนใหญ่ส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน และไต้หวัน
"ธุรกิจอาหารส่งออกของบริษัทยังมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะช่องทางการขายที่สำคัญ เช่น Wholesale และหน่วยรถเงินสด เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ คนละครึ่ง-เราชนะ-ม.33 รวมทั้งล่าสุด สัดส่วนการส่งออกในธุรกิจอาหารปีนี้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ใกล้เคียง 20% จากปีก่อนอยู่ที่ 14% ซึ่งน่าจะสนับสนุนให้รายได้รวมในปี 2564 ยังสามารถรักษาอัตราการเติบโต 2 หลัก (Double digit) ได้จากปีที่ผ่านมา"
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนเดินหน้าธุรกิจใหม่ โดยผลิตสินค้าประเภท "ไบโอพลาสติก" ซึ่งเป็นผลผลิตต่อยอดจากพืชผลทางการเกษตร และสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ 100% สามารถนำไปใช้ในรูปแบบประเภทสินค้าภาชนะ และของใช้ในการเกษตรทั่วไป ซึ่งคาดว่าจะเริ่มผลิตในช่วงปลายปีนี้ และทยอยรับรู้รายได้บางส่วนในปีนี้ และรับรู้รายได้เต็มปีตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญในด้านการผลิตอาหารปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์โควิด-19 ได้มีการยกระดับความปลอดภัยขั้นสูงสุด เริ่มตั้งแต่การบริหารจัดการสถานที่ กระบวนการผลิต และบุคลากรตามมาตรการร่วม และมาตรฐานด้านสุขอนามัย ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้คู่ค้าและผู้บริโภคในการซื้อสินค้าที่มีมาตรฐานปลอดภัยจากโรคโควิด-19 และเมื่อสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกันจัดทำมาตรฐาน IPHA ขึ้นมา
TWPC โดยโรงงานวุ้นเส้นและเส้นก๋วยเตี๋ยวที่บางเลน จังหวัดนครปฐม จึงได้เป็นสถานประกอบการในกลุ่มโรงงานวุ้นเส้นที่ได้รับการรับรองมาตรฐานด้านสุขอนามัย "IPHA" หรือ Industrial and Production Hygiene Administration ตอกย้ำความมั่นใจด้านความปลอดภัยในมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 และเป็นโรงงานวุ้นเส้นภายใต้แบรนด์มังกรคู่ หงษ์ กิเลนคู่ และโรงงานเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ได้รับการรับรองเป็นแห่งแรกในประเทศไทยอีกด้วย