xs
xsm
sm
md
lg

COLOR แตกไลน์สู่พลังงานทดแทน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สาลี่ คัลเล่อร์ ส่งซิกแนวโน้มธุรกิจในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าโตแกร่ง หลังสยายปีกธุรกิจพลังงานทดแทน เพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ กระจายความเสี่ยงธุรกิจ มาร์จิ้นสูง ผู้บริหารเดินหน้าสั่งซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติมเพื่อลุยขยายกำลังการผลิตทุ่นลอยน้ำโซลาร์เซลล์ในเดือน ก.ค.นี้ พร้อมบุกตลาดโซลาร์รูฟ โรงงานอุตสาหกรรมไซส์กลาง เพิ่มฐานรายได้ประจำ เสริมแกร่งธุรกิจเดิม

นายพีรพันธ์ จิวะพรทิพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สาลี่ คัลเล่อร์ จำกัด (มหาชน) (COLOR) ผู้ผลิตและจำหน่ายเม็ดพลาสติกมาสเตอร์แบตซ์ เม็ดพลาสติกคอมพาวด์ และสีผสมพลาสติกชนิดผง เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้มีการแตกไลน์สู่ธุรกิจพลังงานทดแทน ผ่านบริษัท เดอะบับเบิ้ลส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เพื่อเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ประจำ (Recuring Income) และกระจายความเสี่ยงธุรกิจ อีกทั้งธุรกิจดังกล่าวมีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) โดยมั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้น

ทั้งนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมติดตั้งเครื่องจักรเพิ่มเติมเพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถเดินเครื่องจักรผลิตและจำหน่ายทุ่นลอยน้ำได้ในเดือนกรกฎาคมนี้ ในปัจจุบันมีคำสั่งซื้อแล้ว 1- 2 ราย และคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ภายในช่วงปลายปีนี้ นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายฐานลูกค้าในส่วนของผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมขนาดกลางและเล็ก ที่ต้องการลงทุนติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป เพื่อประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้

“แนวโน้มผลการดำเนินในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งจากธุรกิจเดิมที่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 6-7% และมีรายได้จากธุรกิจพลังงานทดแทนเข้ามาเสริมแกร่งในอนาคต ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีออเดอร์เข้ามา และอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้า และคาดว่าจะช่วยผลักดันรายได้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า”

ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 1/2564 มีกำไรสุทธิ 21.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 14.75 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 280 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21 ล้านบาท หรือ 8% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 259 ล้านบาท เนื่องจากการทำตลาดในสินค้าประเภทใหม่ๆ เพิ่มขึ้น รวมทั้งบริษัทฯ มีการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ดีขึ้น ทำให้ช่วยประหยัดต้นทุนการผลิต ส่งผลให้มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นเป็น 23.8% เพิ่มขึ้น 2.3% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน


กำลังโหลดความคิดเห็น