"กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง" ประเมินภาพรวมธุรกิจครึ่งปีหลังสัญญาณดีต่อเนื่อง รับแรงบวกลุยธุรกิจพืชเศรษฐกิจกัญชง กัญชา เพิ่มช่องทางสร้างรายได้ แถมธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและงาน EPC ยังเติบโตต่อเนื่องโดยตุนงานไว้ในมือแล้ว 9,600 ล้านบาท ด้าน “ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย” ซีอีโอเผยครึ่งหลังปีนี้เล็งเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่เพิ่มอีกกว่า 20,000 ล้านบาท คาดได้งานไม่ต่ำกว่า 15-20% สนับสนุนผลงานปีนี้โตตามเป้าหมาย 20%
ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทฯ มีความมั่นใจในศักยภาพของรายได้และกำไรสุทธิในครึ่งปีหลังว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่นต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก เนื่องจากได้ขยายโอกาสไปยังธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพืชเศรษฐกิจ กัญชง หรือกัญชา เพื่อสร้างจุดแข็งและสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขันทางธุรกิจให้กลุ่มบริษัทฯ ในอนาคต รวมถึงวางแผนลงทุนทำโรงสกัด CBD บริสุทธิ์ 99% ที่มีกำลังผลิต 1 ตัน ต่อวัน ซึ่งวางแผนจำหน่ายในประเทศและต่างประเทศต่อไป
นอกจากนี้ ยังได้ขยายธุรกิจไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับระบบไฟฟ้าเพื่อต่อยอดธุรกิจ ขณะที่งานรับเหมาและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) ได้เข้าร่วมประมูลกว่า 5,000 ล้านบาท และคาดว่าจะได้งานไม่ต่ำกว่า 20% ซึ่งจะทยอยทราบผลภายใน 1-2 เดือนต่อจากนี้ จากปัจจุบันบริษัทฯ มีงาน EPC ในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 9,600 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ 2-3 ปีข้างหน้า
“กลุ่มบริษัทฯ ยังมีโอกาสอีกมากในการเข้าร่วมประมูลงาน EPC ใหม่ๆ ซึ่งตั้งเป้าหมายที่จะมีงาน EPC ในมือไว้ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาทภายในปี 2564 และยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจตามแผนธุรกิจที่วางไว้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะธุรกิจด้านพลังงานทดแทน ทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังคงมองหาโอกาสการลงทุนและเข้าร่วมประมูลงานโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติม ซึ่งในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาบริษัทฯ มี Backlog เพิ่มเข้ามาอีก 1,700 ล้านบาท โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ มีแผนเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติมอีกคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับงานเพิ่มอีก 15-20% จากยอดดังกล่าวจึงน่าจะเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ผลการดำเนินงานปีนี้เติบโตอย่างมีศักยภาพ และจะเติบโตอย่างโดดเด่น ซึ่งบริษัทฯ ยังคงเป้าหมายการเติบโตรายได้ปีนี้ไม่น้อยกว่า 20%จากปีก่อนนอกจากนี้” ดร.สมบูรณ์ กล่าว
อนึ่ง ผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2564 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2564) บริษัทฯ มีกำไรในส่วนของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 608.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 439.10 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 38.60%
ขณะที่กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 2,323.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 549.56 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 30.99% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม จำนวน 1,773.55 ล้านบาท เนื่องจากมีรายได้จากการขายไฟฟ้า และส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้าเท่ากับ 1,112.58 ล้านบาท รายได้จากการรับเหมาก่อสร้าง และให้บริการเท่ากับ 454.39 ล้านบาท รายได้จากการขายเท่ากับ 268.74 ล้านบาท รวมถึงรายได้จากสัญญาเช่าเงินทุนที่รับรู้ตามมาตรฐานบัญชีใหม่เท่ากับ 210.02 ล้านบาท