กกพ.เปิดรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา สำหรับกลุ่มโรงเรียน สถานศึกษา โรงพยาบาล และผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทสูบน้ำเพื่อการเกษตร รวม 50 เมกะวัตต์ เริ่ม 1 มิ.ย.-30 ก.ย.นี้
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกของ กกพ. เปิดเผยว่า กกพ.ได้ออกประกาศเชิญชวนรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมากโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา สำหรับกลุ่มโรงเรียน สถานศึกษา โรงพยาบาล และสูบน้ำเพื่อการเกษตร (โครงการนำร่อง) พ.ศ. 2564 เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 กำหนดปริมาณรับซื้อไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 50 เมกะวัตต์ โดยการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายจะเปิดและปิดรับคำเสนอขายไฟฟ้าตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 64 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 64 และภายในวันที่ 30 ธ.ค. 64การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือก และทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า
สำหรับปริมาณการรับซื้อไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 50 เมกะวัตต์จะมีอัตรารับซื้อไฟฟ้าส่วนเกิน 1.00 บาทต่อหน่วย (กิโลวัตต์ชั่วโมง) แบ่งออกเป็นพื้นที่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) จำนวน 12 เมกะวัตต์ ประกอบไปด้วย โรงเรียน สถานศึกษา รวม 6 เมกะวัตต์ และโรงพยาบาล 6 เมกกะวัตต์ พื้นที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จำนวน 38 เมกะวัตต์ ประกอบไปด้วย โรงเรียน สถานศึกษา รวม 14 เมกะวัตต์ โรงพยาบาล 14 เมกะวัตต์ และผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทสูบน้ำเพื่อการเกษตร 10 เมกะวัตต์ โดยมีระยะเวลารับซื้อไฟฟ้าไม่เกิน 10 ปี และมีกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (SCOD) ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการดังกล่าวสามารถยื่นข้อเสนอขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย (กฟภ. และ กฟน.) ผ่านเว็บไซต์ กฟภ. (https://ppim.pea.co.th/) และ กฟน. (https://spv.mea.or.th) เพื่อพิจารณาตรวจสอบคำเสนอขายไฟฟ้า โดยเรียงลำดับก่อนหลังตามความพร้อม (First come First served) ตามกรอบเวลาที่กำหนด
“การประกาศดังกล่าวได้ดำเนินการภายหลังจากที่ระเบียบ กกพ.ว่าด้วยการจัดหาไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา สำหรับกลุ่มโรงเรียน สถานศึกษา โรงพยาบาล และสูบน้ำเพื่อการเกษตร (โครงการนำร่อง) พ.ศ. 2564 ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปและมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2564” นายคมกฤชกล่าว
สำหรับการดำเนินงานเป็นไปตามมติของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2563 ได้เห็นชอบแนวทางการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายแผน PDP2018 rev.1 โดยให้ขยายผลไปยังกลุ่มโรงเรียน สถานศึกษา โรงพยาบาล และสูบน้ำการเกษตร (โครงการนำร่อง) เพื่อสนับสนุนให้กลุ่มดังกล่าวสามารถผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เอง ส่วนที่เหลือใช้สามารถขายเข้าสู่ระบบได้