กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง โชว์กำไรสุทธิ 608.59 ล้านบาท พุ่งกว่า 38.60% ส่วนรายได้รวมโดดเด่นแตะระดับ 2,323.11 ล้านบาท ผู้บริหารประเมินภาพรวมธุรกิจปีนี้จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ พร้อมรับรู้รายได้จากงาน EPC ที่ตุนไว้ในมือกว่า 8.5 พันล้านบาท มั่นใจผลงานปีนี้โตทะลุเป้า 20%
ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2564 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2564) ของบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรในส่วนของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 608.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 439.10 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 38.60%
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 2,323.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 549.56 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 30.99% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมจำนวน 1,773.55 ล้านบาท เนื่องจากมีรายได้จากการขายไฟฟ้า และส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้าเท่ากับ 1,112.58 ล้านบาท รายได้จากการรับเหมาก่อสร้าง และให้บริการเท่ากับ 454.39 ล้านบาท รายได้จากการขายเท่ากับ 268.74 ล้านบาท รวมถึงรายได้จากสัญญาเช่าเงินทุนที่รับรู้ตามมาตรฐานบัญชีใหม่เท่ากับ 210.02 ล้านบาท
“ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจอย่างเข้มข้น รวมถึงได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งในส่วนของธุรกิจผลิต การจัดหาอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้า การจำหน่ายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม และโรงไฟฟ้าพลังงานลม รวมถึงธุรกิจงานรับเหมา และวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) จึงทำให้รายได้และกำไรไตรมาส 1/64 เติบโตตามที่คาดการณ์ไว้"
สำหรับการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือปีนี้ บริษัทฯ น่าจะยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตไม่น้อยกว่า 20% จากปีก่อน ซึ่งจะมาจากการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งใน และต่างประเทศ ซึ่งเป็นรายได้หลักที่มีเข้ามาสม่ำเสมอ อีกทั้งยังมีงาน EPC ในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 8,500 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ 2-3 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าประมูลงานใหม่เข้ามา และบริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายที่จะมีงาน EPC ในมือไว้ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาทภายในปี2564
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและสร้างจุดแข็งให้กลุ่มบริษัทฯ และสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขันทางธุรกิจ ซึ่งล่าสุดอยู่ระหว่างศึกษาเกี่ยวกับพืชเศรษฐกิจ กัญชง หรือกัญชา รวมถึงวางแผนลงทุนทำโรงสกัด CBD บริสุทธิ์ 99% ที่มีกำลังผลิต 1 ตัน (ช่อดอกกัญชง) ต่อวัน