การเปิดซื้อขายชั่วคราว หุ้นบริษัท บางกอกโพสต์ จำกัด (มหาชน) หรือ POST และหุ้นบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ระหว่างวันที่ 16 เมษายนถึง 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา ปิดฉากลงแล้ว โดยไม่อาจคาดหมายได้ว่า หุ้นทั้ง 2 บริษัทจะมีโอกาสกลับมาซื้อขายได้อีกเมื่อไหร่
การซื้อขายหุ้น POST ตลอด 1 เดือน เป็นไปอย่างราบเรียบ ราคาเคลื่อนไหวในกรอบ 1 บาทเศษ และแทบไม่มีใครติดตามความเคลื่อนไหว เพราะเป็นหุ้นที่ไม่มีสภาพคล่องอยู่แล้ว และผู้ถือหุ้นมีจำนวนเพียง 500 คนเศษ
หุ้น THAI ได้รับความสนใจตั้งแต่วันแรกที่กลับมาซื้อขายใหม่ โดยราคาปิดครั้งสุดท้ายก่อนเปิดการซื้อขายครั้งนี้อยู่ที่ 4.08 บาท และถูกเทขายทันทีที่เปิดการซื้อขายวันแรก จนราคารูดลงต่ำสุดที่ 1.60 บาท ก่อนจะกระเตื้องขึ้นมาปิดที่ 2.40 บาท หลังจากนั้นเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบประมาณ 2 บาท
แต่ 2 วันสุดท้ายของการซื้อขาย หุ้น THAI กลับร้อนแรงขึ้น โดยวันที่ 14 พฤษภาคม มีแรงซื้อไล่ราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ 2.56 บาท เพิ่มขึ้น 34 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้น 15.32% และวันที่ 17 พฤษภาคมซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการซื้อขาย มีการไล่ราคาหุ้นจนพุ่งขึ้นชนเพดานสูงสุด 30% โดยปิดที่ 3.32 บาท เพิ่มขึ้น 78 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้น 29.69%
ราคาหุ้น THAI น่าจะปรับตัวลงในช่วงใกล้เวลาที่จะสิ้นสุดการซื้อขาย แต่กลับมีแรงซื้อโถมเข้ามา จนเกิดคำถามว่า นักลงทุนกลุ่มไหนเป็นผู้ซื้อ และซื้อเพราะเหตุใด เพราะไม่ใครคาดหมายชะตากรรมตัวนี้ได้
การไล่เก็บหุ้น THAI จึงเต็มไปด้วยความเสี่ยง เสี่ยงจากแผนฟื้นฟูกิจการที่อาจไม่ได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหนี้ เสี่ยงที่จะฟื้นฟูกิจการไม่ได้ตามแผน และต้องล้มละลาย สุดท้ายจะถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์
แต่ทำไมนักลงทุนจึงกล้าเสี่ยงเข้าไปไล่ซื้อหุ้น THAI ซึ่งไม่รู้ว่าจะกลับมาซื้อขายได้อีกเมื่อไหร่
ตลาดหลักทรัพย์ได้ขึ้นเครื่องหมาย “SP” หุ้น THAI ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม และกำหนดให้บริษัทแก้ไขเหตุแห่งการถูกเพิกถอนจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนภายใน 3 ปี ถ้าแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนภายในเงื่อนเวลาที่กำหนดไม่ได้ จะพิจารณาเพิกถอนจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน โดยจะเปิดให้ซื้อขายหุ้นครั้งสุดท้ายเป็นเวลา 7 วัน
ผู้ถือหุ้นจำนวนกว่า 1 แสนราย คงต้องการเห็นหุ้น THAI กลับมาซื้อขายตามปกติ ซึ่งหมายถึงภายใน 3 ปี จะต้องแก้ไขเหตุแห่งการถูกเพิกถอนให้สำเร็จ ผลประกอบการจะต้องกลับมามีกำไร แต่ THAI จะทำได้หรือไม่
ในวัน 19 พฤษภาคมนี้จะมีการประชุมเจ้าหนี้ เพื่อลงมติแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งไม่รู้ว่าเจ้าหนี้จะอนุมัติแผนฟื้นฟูฯ THAI หรือไม่ หรือจะต้องปรับแผนฟื้นฟูฯ กันใหม่
ปัจจัยความเสี่ยงหุ้น THAI มีรอบด้าน แต่ยังมีนักลงทุนใจกล้า และเข้าไปวัดดวงกับหุ้น THAI
นักลงทุนที่เข้าไปไล่ช้อนหุ้น THAI ในช่วง 2 วันสุดท้ายของการเปิดให้ซื้อขายชั่วคราว ไม่ใช่นักเก็งกำไรระยะสั้นโดยทั่วไป แต่คงเป็นนักเสี่ยงโชค บนความเชื่อว่า สายการบินแห่งชาติจะไม่ถูกปล่อยให้ล้ม และมีความคาดหวังว่ามีโอกาสกลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ตามปกติอีกครั้ง
ถ้าคาดการณ์ถูก THAI กลับมาใหม่ ราคาหุ้นคงไม่ซื้อขายกันที่ระดับ 3-4 บาทเท่านั้น
นักลงทุนที่ไล่ซื้อหุ้น พร้อมแล้วที่จะถือรอคอยการกลับมาของหุ้น THAI แม้อาจต้องใช้เวลาหลายปีก็ตาม
นับจากวันนี้ เป็นการนับถอยหลังในชะตากรรมของหุ้น THAI และเป็นการนับถอยหลังของผู้ถือหุ้นจำนวนกว่า 1 แสนราย
ภายในเวลา 3 ปี ถ้า THAI ไม่ฟื้น ผู้ถือหุ้นจะฝันสลาย หุ้นที่ถือกันไว้จะเสื่อมค่ากลายเป็นศูนย์