“ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” ประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน ใช้วิธีการสร้างภาพ โฆษณาชวนเชื่อ นำผลตอบแทนสูงๆ เป็นเหยื่อล่อกระตุ้นให้เกิดความโลภ จนประชาชนขนเงินไปร่วมลงทุน และเกิดความเสียหายรวมกันนับพันล้านบาท
ในตลาดหุ้น ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนจำนวนไม่น้อยมีพฤติกรรมที่ไม่แตกต่างจากนายประสิทธิ์ โดยการโฆษณาชวนเชื่อถึงแนวโน้มผลประกอบการ กระตุ้นให้นักลงทุนแห่เข้ามาซื้อหุ้นจนเกิดความเสียหายนับหมื่นนับแสนราย วงเงินความเสียหายสูงกว่ากรณีการต้มตุ๋นของนายประสิทธิ์ นับสิบนับร้อยเท่า
และไม่มีหน่วยงานใดกำกับดูแล ควบคุมพฤติกรรมผู้บริหารจดทะเบียนที่ออกมาคุยโม้ โฆษณาชวนเชื่อถึงผลตอบแทนสูงจากการลงทุนในหุ้นบริษัท เพื่อปั่นราคาหุ้นแต่อย่างใด
ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีหุ้นบริษัทจดทะเบียนใหม่เข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นหลายบริษัท ขณะที่บริษัทจดทะเบียนหลายสิบแห่ง ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้ จึงมีบรรดาผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนทั้งเก่าและใหม่ออกมาพูดจาประสาดอกไม้ คุยโวถึงแนวโน้มผลประกอบการอันสดใสกันมากมาย
พฤติกรรมการตีปี๊บ ร้องป่าวโฆษณาชวนเชื่อข่าวดี เพื่อกระตุ้นราคาหุ้นของผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนดูเหมือนจะเป็นประเพณีปฏิบัติไปแล้ว ทั้งที่อาจเข้าข่ายในการชี้นำราคา หรือสร้างข้อมูลเพ้อฝัน โดยออกมาคาดการณ์ถึงแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทที่อาจเกินจริง นำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดของนักลงทุนจนเกิดความเสียหายตามมา
การที่นายประสิทธิ์ สามารถสร้างภาพจนสังคมหลงผิด คิดว่าเป็นคนดี เป็นเพราะองค์กรต่างๆ หละหลวมในการตรวจสอบพฤติกรรมของบุคคลมิจฉาชีพ 18 มงกุฎ จึงมีโอกาสคุยโม้ผ่านรายการทีวีดังๆ หลายรายการ และมีพื้นที่ร่วมกิจกรรมในกองทัพ เรียกความเชื่อถือให้ตัวเอง
เช่นเดียวกับตลาดหลักทรัพย์ ถ้ามีความหละหลวมในการพิจารณากลั่นกรองรับหุ้นใหม่ ปล่อยให้บริษัทเน่าๆ ซึ่งแต่งบัญชีงบการเงินให้ดูสวยหรู หลุดเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้น ประชาชนผู้ลงทุนจะเกิดความเสียหาย ซึ่งเคยมีกรณีที่เกิดขึ้นมาแล้ว
บริษัท รอยเนท จำกัด (มหาชน) แต่งบัญชีตบตาคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ จนได้รับอนุมัติเข้ามาจดทะเบียน แต่เมื่อหุ้นเข้ามาซื้อขาย ผู้ถือหุ้นใหญ่เดิมเทขายหุ้นทิ้ง ทำให้นักลงทุนที่ซื้อหุ้นรอยเนทเสียหายทั้งหมด เพราะสุดท้ายราคาหุ้นกลายเป็นศูนย์
หรือแม้แต่การปล่อยให้ผู้บริหารจดทะเบียน ออกมาคุยโม้โอ้อวดถึงแนวโน้มการเติบโตของบริษัท ชี้นำราคาหุ้น หลอกล่อให้แมลงเม่าบินเข้ากองไฟ ไม่แตกต่างจากการต้มตุ๋นของนายประสิทธิ์ และทำใหเประชาชนผู้ลงทุนจำนวนประมาณ 1.5 ล้านคน มีโอกาสตกเป็นเหยื่อ
ตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้แตกต่างจากหลายหน่วยงานที่ปล่อยให้นายประสิทธิ์ มีเวทีในการสร้างภาพตัวเอง
เพราะตลาดหลักทรัพย์เคยเชิญผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนที่เป็นนักปั่นหุ้น เป็นวิทยากรในการอบรมสัมมนาให้ความรู้นักลงทุนมาแล้ว
เสี่ยหุ้นหลายคนมีพฤติกรรมซื้อขายที่เข้าข่ายการปั่นหุ้น และร่วมมือกับผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนในการสร้างข่าวกระตุ้นราคาหุ้น
ความร่ำรวยของเสี่ยหุ้นหลายคน เบื้องหลังไม่ใช่ความเก่ง แต่เป็นเรื่องของการโกง แต่เสี่ยหุ้นกลับมีเวทีที่ได้รับเชิญเป็นวิทยากรในการสัมมนาอบรมให้ความรู้นักลงทุน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ในสังคมตลาดหุ้นก็ไม่ได้ตระหนักถึงมาตรการทางสังคมเพื่อต่อต้านคนที่มีพฤติกรรมไม่ดีไม่ให้มีที่ยืนเหมือนกัน
ซาตานที่ซ่อนตัวในคราบของคนดี มิจฉาชีพในคราบของบุคคลมีชื่อเสียง ไม่ได้มีเฉพาะนายประสิทธิ์ เจียวก๊กเท่านั้น แต่ยังมีมิจฉาชีพพวก 18 มงกุฎ แฝงตัวในวงการต่างๆ โดยเฉพาะตลาดหุ้น ศูนย์กลางการลงทุนขนาดใหญ่ มีมูลค่ามาร์เกตแคปหรือราคาหลักทรัพย์ตลาดรวมกว่า 17 ล้านล้านบาท
18 มงกุฎในตลาดหุ้นอาจแฝงตัวในคราบสื่อประเภทตบทรัพย์ รับเชียร์หุ้น แฝงตัวในคราบผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน บุคลากรในบริษัทโบรกเกอร์ บริษัทที่ปรึกษาการเงินในการแต่งตัวนำบริษัทใหม่เข้าตลาดหุ้น หรือแม้แต่บรรดาเสี่ยหุ้น
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์ ในฐานะที่ดูแลกำกับตลาดหุ้นจะปกป้องประชาชนผู้ลงทุนให้รอดพ้นจากการตกเป็นเหยื่อ 18 มงกุฎในตลาดหุ้นได้อย่างไร
จะควบคุมไม่ให้นักโฆษณาชวนเชื่อ ต้มตุ๋นนักลงทุนจนเกิดความหายนะซ้ำรอยกรณีนายประสิทธิ์ได้อย่างไร