"แอล.พี.เอ็น.ฯ" ปรับโครงสร้างองค์กรรองรับการขับเคลื่อนธุรกิจตามแผนยุทธศาสตร์ สร้างการเติบโตของรายได้ กำไรอย่างยั่งยืน เผยวางเป้าเพิ่มยอดขายอีก 8,000 ล้านบาทในช่วงที่เหลือ เปิดโครงการใหม่คอนโดฯ และบ้านพักอาศัย รวม 9 โครงการ มูลค่ารวม 8,500 ล้านบาท
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN กล่าวว่า บริษัทได้วางยุทธศาสตร์แผน 3 ปี ในช่วง 2565-2567 ให้เป็นช่วงของการขับเคลื่อนองค์กร ไปสู่การเป็นองค์กรที่มีอัตราการเติบโตในด้านของรายได้ และความสามารถในการทำกำไรอย่างยั่งยืน
ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ในปี 2564 บริษัทได้เริ่มวางแผน โดยปรับโครงสร้างองค์กร (Reorganization) จากโครงสร้างการทำงานตามหน้าที่ (Functional Organization) สู่การบริหารงานในรูปแบบของหน่วยธุรกิจ (Business Unit) รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการปรับปรุงกระบวนการทำงาน (Digital Transform) เพื่อให้การทำงานมีความคล่องตัว เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารค่าใช้จ่าย และต้นทุนในการดำเนินงาน โดยมี 4 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ 1) การรุกตลาดบ้านพักอาศัย 2) ขยายฐานรายได้งานบริการ 3) บริหารสภาพคล่องทางการเงิน และ 4) การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ทรัพย์สินที่มีอยู่
จากผลประกอบการในไตรมาส 1 ปี 2564 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ จำนวน 122.86 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 43.35 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (มีจำนวน 216.88 ล้านบาท) โดยรายได้จากการขายโครงการอาคารชุดพักอาศัยสามารถทำได้ 674.05 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 39.75 เนื่องจากบริษัทเร่งรับรู้รายได้จาก Backlog ทั้งหมดในช่วงไตรมาส 4 ปี 2563 และสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ในช่วงต้นปีการทำแคมเปญการขายต่างๆ ไม่ได้รับผลตอบรับดีกว่าที่เคย
ส่วนโครงการบ้านพักอาศัย มีรายได้ใกล้เคียงกับไตรมาส 1 ปี 2563 โดยสามารถทำได้ 382.52 ล้านบาท ในขณะเดียวกัน รายได้จากธุรกิจให้เช่าและบริการเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 27.97 เป็นการขยายงานเช่าตามนโยบายของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายปี 2561 ได้แก่ โครงการลุมพินีทาวน์ชิป รังสิต-คลอง 1 เฟส 3 และโครงการอาคารชุดพร้อมอยู่มาสร้างรายได้เพิ่ม โดยปล่อยเช่าต่อเนื่องจากปี 2563 ได้แก่ 1) ลุมพินี พาร์ค พหล 32 2) ลุมพินี เพลส พระราม 3-ริเวอร์ไรน์ 3) ลุมพินี พาร์ค เพชรเกษม 98 4) ลุมพินี ซีเล็คเต็ดสุทธิสาร-สะพานควาย 5) ลุมพินี วิลล์ พระนั่งเกล้า-ริเวอร์วิว
โดยใน 9 เดือนหลังของปี 2564 บริษัทมีเป้าหมาย ดังนี้ 1) การสร้างยอดขายเพิ่มอีกประมาณ 8,000 ล้านบาท 2) การเปิดตัวโครงการใหม่ประมาณ 9 โครงการ มูลค่าประมาณ 8,500 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการอาคารชุดพักอาศัย 3 โครงการ และโครงการบ้านพักอาศัย 6 โครงการ โดยมีแผนเริ่มเปิดตัวโครงการแรกในไตรมาส 2 ปี 2564
สำหรับโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมส่งมอบ ณ ไตรมาส 1 ปี 64 มูลค่าโครงการรวมประมาณ 3,140 ล้านบาท จำนวน 2 โครงการ แบ่งเป็น โครงการอาคารสำนักงาน ได้แก่ โครงการลุมพินีทาวเวอร์ วิภาวดี-จตุจักร มูลค่าโครงการประมาณ 2,780 ล้านบาท และบ้านพักอาศัยของบริษัทย่อย จำนวน 1 โครงการ ได้แก่ โครงการบ้านลุมพินี ทาวน์ วิลล์ ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า (เฟส 3) มูลค่าโครงการประมาณ 360 ล้านบาท
ในส่วนของยอดขายในไตรมาสแรก มีจำนวน 2,100 ล้านบาท ตัวเลขยอดขายรอโอน (แบ็กล็อก) จำนวน 2,480 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในปี 64 และต่อเนื่องปี 65 หลักๆ จะเป็นโครงการอาคารชุดพักอาศัย
