บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยฟื้นตัวรับข่าวบวกสหรัฐฯ ผ่านกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจ น้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น และรัฐบาลเตรียมชงหามาตรการคลายล็อกดาวน์เพิ่มช่วงสงกรานต์ พ่วงแผนเปิดโครงการ “SME คนละครึ่ง” คาดส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ จึงให้กรอบดัชนี 1,530-1,575 จุด พร้อมแนะกลยุทธ์ลงทุน 9 หุ้นเด่นได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันขาขึ้นและหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่ยื่นขอนำเข้าวัคซีนโควิด-19
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นจากปัจจัยสนับสนุนทั้งปัจจัยต่างประเทศ หลังจากสหรัฐฯ ผ่านกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจ และการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก รวมทั้งปัจจัยในประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งเตรียมพิจารณาข้อกำหนดการออกพาสปอร์ตวัคซีนโควิด-19 ระหว่างที่รอองค์การอนามัยโลก (WHO) โดยกำหนดมาตรฐานกลางเพื่อให้ทุกประเทศทั่วโลกใช้มาตรฐานเดียวกัน อีกทั้งทาง ศบค.เตรียมเสนอมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมช่วงสงกรานต์ให้สอดคล้องกับแผนการฉีดวัคซีน ผ่อนปรนให้ให้ต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทย รวมทั้งยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการที่รัฐบาลเล็งเปิดโครงการ “SME คนละครึ่ง” คาดจะส่งผลดีต่อการพื้นตัวของเศรษฐกิจ จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ที่ 1,530-1,575 จุด
ส่วนปัจจัยที่มองว่ายังคงกดดันการลงทุนในช่วงสั้น ยังคงเป็นปัญหาหนี้ครัวเรือนคงค้างในระดับสูงจากรายได้ลดที่เป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศมีความไม่แน่นอนจากกระแสการปรับ ครม. การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการชุมนุมทางการเมือง อีกทั้งควรจับตาการรายงานตัวเลข GDP ของญี่ปุ่น และอียู ส่วนสหรัฐฯ ก็มีการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือน ก.พ.
นอกจากนี้ ทางจีนจะมีการเปิดเผยดัชนี CPI - PPI และยอดปล่อยกู้สกุลเงินหยวนเดือน ก.พ. ส่วนสหรัฐฯ เปิดเผยอัตราเงินเฟ้อและสต๊อกน้ำมัน รวมทั้งจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานและตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงานเดือน ม.ค. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เช่นเดียวกับทางธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะมีการประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย และรายงานตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นพลังงานซึ่งได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับขึ้นต่อเนื่อง ได้แก่ PTTEP, PTT, PTTGC และ TOP รวมทั้งหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่ยื่นขอนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ได้แก่ THG, BDMS, BCH, RAM และ PRINC
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินว่า ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวลงเนื่องจากในทางเทคนิคมีการสร้าง Lower Low โดยเริ่มเข้าสู่แนวโน้มขาลงหลังหลุดแนวรับ 1,700 $/Oz จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวทองคำในสัปดาห์นี้ที่ 1,650-1,730 $/Oz จากแรงขายของกองทุน SPDR ที่มีสถานะขายตั้งแต่ต้นปี 109 ตัน (ปี 63 สถานะซื้อ 275 ตัน) และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปีสู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 1.54%
