“โพสโค-ไทยน๊อคซ์” ตั้งเป้าปี 2564 รับแผนซื้อเครื่องจักรใหม่-ปรับปรุงของเดิมคาดแล้วเสร็จปีนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการผลิต และลด yield loss เสริมกำลังผลิตเพิ่มขึ้นกว่า 84,000 ตันต่อปี หนุนการบริหารสินค้าคงคลังให้ดีขึ้น พร้อมเดินหน้าครองส่วนแบ่งการตลาดส่วนใหญ่ของอุตสาหกรรมสเตนเลสรีดเย็นในประเทศ
นายยองชอล ควอน ประธานกรรมการบริษัท โพสโค-ไทยน๊อกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ INOX ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสเตนเลสรีดเย็นคุณภาพสูงทั้งชนิดแผ่นและชนิดม้วนรายเดียวในประเทศไทย และรายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยถึงแผนธุรกิจปี 2564 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายเติบโตแตะ 240 แสนตัน/ปี จากปี 2563 อยู่ที่ 223 แสนตัน/ปี โดยมีแผนขยายตลาดในประเทศ ซึ่งเริ่มดำเนินการในช่วงที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในรอบแรกมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยเน้นการเพิ่มความสามารถในการขายสินค้าเฉพาะกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีแนวโน้มฟื้นตัว และความได้เปรียบเชิงการแข่งขันในตลาดส่งออก เนื่องจากบริษัทฯ เป็นผู้นำตลาดรายใหญ่ โดยในปีนี้ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ในประเทศไว้ที่ 70% และส่งออกตลาดต่างประเทศ 30%
ทั้งนี้ จากเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของสเตนเลสรีดเย็นในประเทศให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะใช้ความได้เปรียบจากการเป็นผู้ผลิตสเตนเลสรีดเย็นรายเดียวในประเทศที่มีเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง ในช่วงปี 2561-2562 บริษัทฯ ได้ตั้งงบลงทุนไว้ 16.8 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 504 ล้านบาท ใช้ลงทุนปรับปรุงเครื่องจักร ลดโอกาสในการสูญเสียทางการผลิตและแก้ไขปัญหาการผลิตที่เป็นคอขวด เพื่อขยายกำลังการผลิตในส่วนที่ปรับปรุงเพิ่มเป็น 84,000 ตัน/ปี จากปัจจุบันอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 300,000 แสนตัน/ปี คาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จและเดินเครื่องได้ภายในปี 2564 นี้ ส่งผลให้การบริหารจัดการสินค้า (inventory) ดีขึ้นตามไปด้วย
“งบดังกล่าวตั้งงบไว้ตั้งแต่ปี 2561-62 โดยการติดตั้งเครื่องจักรใหม่นี้ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน เนื่องจากต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศ และประกอบกับในปีที่ผ่านมามีปัญหาการระบาดของโควิด-19 ทำให้การติดตั้งล่าช้าออกไป เนื่องจากต้องรอวิศวกรจากประเทศจีนที่ติดปัญหาด้านการเดินทาง แต่บริษัทพยายามจะเร่งดำเนินการให้เสร็จภายในปีนี้ ปัจจุบันอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 300,000 ตัน/ปี ซึ่งเต็มกำลังการผลิตเกิน 100% แล้ว” นายยองชอล กล่าว
สำหรับผลประกอบการในงวดปี 2563 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายเหล็กสเตนเลสรีดเย็นและการให้บริการ จำนวน 13,177.5 ล้านบาท (225,827 ตัน ณ ราคาขายถัวเฉลี่ย 58,352.2 บาทต่อตัน) ซึ่งต่ำกว่ายอดขายของปี 2562 ที่มีจำนวน 14,404.5 ล้านบาท (227,320 ตัน ณ ราคาขายถัวเฉลี่ย 63,366.7 บาทต่อตัน) เท่ากับ 1,227.0 ล้านบาทหรือลดลง 8.5%
นอกจากนี้ ในปี 2563 บริษัทฯ ขาดทุนสุทธิ จำนวน 17.4 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขาดทุนลดลง 19.3 ล้านบาท จากปี 2562 ขาดทุนสุทธิ 36.7 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากปริมาณการขายที่ลดลงซึ่งผลกระทบหลักคือปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดจากการระบาดของโควิด-19
อนึ่ง ปัจจุบันบริษัทดำเนินธุรกิจจำหน่ายสเตนเลสรีดเย็นทั้งชนิดม้วน (Coils) และชนิดแผ่น (Sheet) ประมาณ 70% ของการขายเป็นการสนับสนุนตลาดภายในประเทศ โดยผ่านตัวแทนจัดจำหน่ายไปยังอุตสาหกรรมการผลิตที่ใช้งานสเตนเลสโดยตรง และธุรกิจขนาดย่อมทั่วไป ขณะที่สเตนเลสอีก 30% ส่งออกไปยังประเทศต่างๆ โดยการจัดจำหน่ายผ่านเครือข่ายของบริษัท โพสโค อินเตอร์เนชั่นแนล (Posco International Corp.) รวมทั้งการจำหน่ายโดยตรงจากโพสโค-ไทยน๊อคซ์