xs
xsm
sm
md
lg

PTTGC งวดนี้กำไรทรุดเหลือ 199 ล้าน ผลกระทบโควิด-19 ขาดทุนสต๊อกน้ำมัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พีทีที โกลบอล เคมิคอล กำไรทรุด 199.60 ล้านบาท ขณะที่งวดนี้ปีก่อนมีกำไรสุทธิ 11,682.08 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจ ปิโตรเคมีและปิดโตรเลียมของบริษัทได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อีกทั้งรับรู้ผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันและการกลับรายการมูลค่าสุทธิที่จะได้รับของสินค้าคงเหลือให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ พร้อมอัดงบลงทุนช่วง 5 ปีข้างหน้า (ปี 64-68) วงเงินรวม 642 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายงานอย่างต่อเนื่องตามแผน

น.ส.ภัทรลดา สง่าแสง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือPTTGC เปิดเผยว่า ไตรมาส 4 มีกำไรสุทธิ 199.60 ล้านบาท ขณะที่งวดนี้ปีก่อนมีกำไรสุทธิ 11,682.08 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจปิโตรเคมีและปิโตรเลียมของบริษัทได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อีกทั้งรับรู้ผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันและการกลับรายการมูลค่าสุทธิที่จะได้รับของสินค้าคงเหลือให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับเป็นผลขาดทุน 8,200 ล้านบาท

ขณะที่บริษัทมีรายได้จากการขยายรวม 326,270 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 20% จากราคาขายที่ปรับตัวลดลงในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ จากผลกระทบโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจทำให้ความต้องการในการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ปรับตัวลดลง จากราคาขายผลิตภัณฑ์และปริมาณการขายผลิตภัณฑ์รวมที่ปรับลดลงจากผลกระทบของสงครามราคาน้ำมันและการระบาดของไวรัสโควิด-19 แม้อัตรากำไรขั้นต้นของสาร LAB จะดีขึ้น แต่จากส่วนต่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่อ่อนตัวลง โดยเฉพาะส่วนต่างราคาน้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และน้ำมันดีเซล แม้ว่า Crude Premium จะปรับลดลงค่อนข้างมาก อีกทั้งส่วนต่างราคาสารพาราไซลีนกับน้ำมันเบนซิน 95 และส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์พลอยได้ของธุรกิจผลิตน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานและยางมะตอยที่อ้างอิงราคาน้ำมันดีเซลกับน้ำมันเตาได้ปรับตัวลดลง

สำหรับการลงทุนนั้น PTTGC เตรียมงบลงทุน 5 ปี (ปี 2564-2568) ไว้ที่ 642 ล้านเหรียญสหรัฐ ไว้สำหรับโครงการต่างๆ เช่น โครงการพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง 25 ล้านเหรียญสหรัฐ โครงการพลาสติกวิศวกรรมชั้นสูง 35 ล้านเหรียญสหรัฐ โครงการปรับปรุงโรงโอเลฟินส์หน่วยที่ 2 จำนวน 158 ล้านเหรียญสหรัฐ และโครงการอื่นๆ อีก 429 ล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ บริษัทคาดการณ์แนวโน้มตลาดน้ำมันในปี 2564 ราคาน้ำมันดิบดูไบจะอยู่ที่ 54-56 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมคาดว่าราคาและส่วนต่างราคาของผลิตภัณฑ์ในปี 2564 จะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นจากปีก่อน สาเหตุจากเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ประกอบกับการผ่อนคลายมาตรการปิดประเทศและอุปสงค์ภาคการเดินทางเริ่มปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งธุรกิจปิโตรเคมีที่จะฟื้นตัวขึ้นเช่นกัน

นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTGC เผยว่า บริษัทลงนามสัญญาการปรับปรุงโรงโอเลฟินส์หน่วยที่ 2 ที่มาบตาพุด จังหวัดระยอง ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ดำเนินการโดยซัมซุง เอ็นจิเนียริ่ง (ประเทศเกาหลีใต้) และซัมซุง เอ็นจิเนียริ่ง (ประเทศไทย) เป็นการก่อสร้างและบริหารโครงการแบบครบวงจร (EPC) โดยอุปกรณ์หลักประกอบด้วย ส่วนเพิ่มเติมของหอกลั่น คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2566

“โครงการดังกล่าวดำเนินการภายใต้กลยุทธ์ Step Change ของบริษัท เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้โพรเพนเป็นวัตถุดิบ และสร้างมูลค่าเพิ่มไปยังธุรกิจปลายน้ำ อีกทั้งช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่บริษัท โดย GC ได้ลงนามสัญญาออกแบบวิศวกรรม การจัดหาเครื่องจักรและอุปกรณ์การก่อสร้าง คาดว่าจะสามารถดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 โดยมีมูลค่าเงินลงทุนรวมทั้งสิ้นประมาณ 165 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5,198 ล้านบาท” นายคงกระพัน กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น