IRPC แจงปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 6,152 ล้านบาท จากราคาและปริมาณการขายที่ลดลงจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ชี้ปีนี้เตรียมรุกธุรกิจใหม่ที่ต่อยอดไปสู่กลุ่มอุปกรณ์การแพทย์และสาธารณสุข ด้านบอร์ดฯ อนุมัติจ่ายปันผล 0.06 บาท/หุ้น
นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4/2563 ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสุทธิที่ 40,661 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 จากไตรมาสก่อนที่มีรายได้สุทธิ 37,671 ล้านบาท เป็นผลมาจากราคาขายที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยมี Market GIM อยู่ที่ 6,144 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กลุ่มปิโตรเคมีปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเวชภัณฑ์ กลุ่มบรรจุภัณฑ์ และกลุ่มเครื่องใช้ในบ้าน มี Accounting GIM จำนวน 7,507 ล้านบาท หรือ 13.45 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 1,608 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสก่อนที่มีผลกำไรสุทธิ 1,556 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2563 บริษัทขาดทุนสุทธิ 6,152 ล้านบาทเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 1,174 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ มี Market GIM และ Accounting GIM ลดลง ซึ่งเป็นผลจากหลายปัจจัย ได้แก่ ราคาและปริมาณการขายลดลง ซึ่งเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อีกทั้งราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นปีจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึงสงครามราคาระหว่างซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย โดยราคาน้ำมันดิบดูไบลดลงต่ำสุดอยู่ที่ 13.55 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในเดือนเมษายน และเริ่มฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการดำเนินกลยุทธ์ด้านการเติบโต (Growth) เทคโนโลยีดิจิทัลและกระบวนการทำงาน (Digital & Process) และทรัพยากรมนุษย์ (People) ควบคู่กับการสร้างสมดุลด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลที่ดี โดยการเพิ่มขีดความสามารถและประสิทธิภาพการผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงด้วยความเป็นเลิศด้านนวัตกรรม มีโครงการ IRPC 4.0 นำระบบดิจิทัลและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการดำเนินงานทั่วทั้งองค์กร และพัฒนาการบริการลูกค้าสู่ความเป็นดิจิทัลทั้งระบบ
นายชวลิตกล่าวว่า ในปี 2564 บริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ตามแผนกลยุทธ์การมุ่งสู่ปิโตรเคมีปลายน้ำเพื่อใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น โดยได้ร่วมมือกับ ปตท.ในการศึกษาการลงทุนผลิต Melt Blown ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตหน้ากากอนามัย หน้ากาก N95 และ Nitrile Butadiene Latex ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตถุงมือทางการแพทย์ตามแผนการลงทุนในธุรกิจใหม่
“นอกจากนี้ ยังร่วมกับมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช จัดตั้งห้องปฏิบัติการกลางเพื่อตรวจสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น หน้ากากอนามัย หน้ากาก N95 และชุดกาวน์ เพื่อยกระดับคุณภาพการผลิตให้ได้ตามมาตรฐาน ลดการพึ่งพาการนำเข้า และเพิ่มเสถียรภาพด้านสาธารณสุขของประเทศอย่างยั่งยืน และจะสร้างการเติบโตให้แก่ IRPC ในอนาคต”
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติเห็นชอบการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลดำเนินงานปี 2563 ในอัตรา 0.06 บาทต่อหุ้น โดยจะเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติในวันที่ 31 มีนาคม 2564