หุ้นบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เคาะซื้อขายวันแรกร้อนเกินพิกัดไปแล้ว แต่ซื้อขายวันที่ 2 แรงยังไม่ตก ราคาพุ่งทะยานต่อจนราคาสูงกว่าจองแล้ว 88.88%
OR เปิดการซื้อขายวันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาในราคา 30.75 บาท/หุ้น และถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 36.50 บาท ต่ำสุดที่ 30.50 บาท และปิดที่ 34 บาท เพิ่มขึ้น 4.75 บาท หรือเพิ่มขึ้น 16.24% มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 38,881.11 ล้านบาท โดย เป็นหุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดอันดับ 1 ติดต่อเป็นวันที่ 2
เมื่อเทียบกับราคาเสนอขายประชาชนทั่วไปที่ 18 บาท หุ้น OR ปรับตัวขึ้นสูงกว่าจองแล้วหุ้นละ 16 บาท หรือสูงกว่าราคาจอง 88.88%
แต่ราคาที่ปรับตัวขึ้นอย่างเหนือความคาดหมายของฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์จากโบรกเกอร์ทุกสำนัก ทำให้ OR กลายเป็นหุ้นที่แพง โดยเฉพาะค่าพี/อี เรโช ที่พุ่งขึ้นไป 50 เท่า ซึ่งสูงมากเมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่ม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือกลุ่ม PTT
ค่าพี/อี เรโช ตลาดหลักทรัพย์เฉลี่ยอยู่ที่ 30 เท่า ส่วนค่าพี/อี เรโช หุ้น PTT ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ OR อยู่ที่ประมาณ 19 เท่า พี/อี เรโช หุ้นบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP อยู่ที่ประมาณ 14 เท่า หุ้นบริษัท โกลบอลกรีนเคมีคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC ค่าพี/อี เรโช อยู่ที่ประมาณ 27 เท่า
ส่วนหุ้นบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP และบริษัท พีทีที โกลบอลเคมีคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ไม่มีค่าพี/อี เรโช เนื่องจากผลประกอบการปี 2562 ขาดทุน จึงไม่อาจคำนวณค่าพี/อี เรโช ได้
ราคาหุ้น OR วิ่งมาไกลมาก ไกลเกินกว่าคำทำนาย และไม่รู้ว่าใครเข้ามาไล่เก็บ เพราะหุ้นตัวนี้ไม่มีเจ้ามือแน่ๆ ส่วนกองทุนรวมในประเทศไม่น่าจะเข้ามาซื้อเพิ่ม และยอดการซื้อขายหุ้นช่วง 2 วันที่ OR เข้ามาซื้อขาย กองทุนรวมในประเทศก็เทขายหุ้นอย่างหนัก วันละ 3-4 พันล้านบาทซึ่งอาจทยอยขาย OR ออกมาด้วย
แรงซื้อที่ลาก OR ขึ้นมา ไม่เป็นต่างชาติก็คงเป็นแมลงเม่าที่ลุยกันเอง
นักลงทุนที่จองซื้อหุ้น OR ไว้ ส่วนใหญ่ขายทำกำไรออกมาแล้ว บางคนเผ่นตั้งแต่วันแรก และกลายเป็นการ “ขายหมู” จนร่ำไห้เสียใจเพราะขาดทุนกำไร
แต่นักลงทุนบางส่วนก็ยังกอด OR ไว้แน่น ใจแข็งไม่ยอมขาย เพราะหวังว่าราคาหุ้นจะเดินหน้าต่อไป
สำหรับนักวิเคราะห์หุ้นโบรกเกอร์ทุกค่าย ไม่มีใครเชียร์ให้ซื้อหุ้น OR แล้ว มีแต่นำแนะนำขายทำกำไร หรือเตือนให้ระวังความเสี่ยง เพราะราคาที่พุ่งขึ้นมาระดับ 34 บาท เป็นราคาที่หาปัจจัยพื้นฐานมารองรับไม่ได้ และเป็นราคาสำหรับการเก็งกำไรระยะสั้น ซึ่งถ้าจะซื้อเพื่อการลงทุน ต้องพร้อมจะถือยาวจริงๆ
OR จะพุ่งไปถึงไหนไม่มีใครกล้าให้คำตอบแล้ว รู้แต่ว่าราคาที่ซื้อขายกันล่าสุดเป็นราคาหุ้นที่ตั้งอยู่บนความคาดหวังแนวโน้มผลประกอบการในอนาคตที่ยาวไกล และนักลงทุนที่ไม่มีความอดทนในการถือลงทุนระยะยาวจริง จึงไม่ควรตามแห่เข้าไปไล่ราคา เพราะมีโอกาสพลาดติดหุ้นต้นทุนสูง
นักลงทุนที่ถือหุ้น OR ในราคาจอง 18 บาท ยังนอนหลับฝันดีอยู่ เพราะต้นทุนหุ้นในมือต่ำมาก แต่ นักลงทุนที่ไล่เก็บหุ้น OR ในกระดานต้นทุนสูงๆ อาจต้องนอนอย่างหวาดผวา
เพราะไม่รู้ว่า OR จะปิดรอบเมื่อไหร่ และถ้าราคาวิ่งแรงแซงปัจจัยพื้นฐาน ถึงจุดหนึ่งจะต้องปรับตัวลงสู่พื้นฐานที่เป็นจริง