ธนาคารกรุงไทยเดินหน้าลุยธุรกิจลีสซิ่ง ดึง KTC ถือหุ้นบริษัท KTB LEASING ในสัดส่วน 75.05% และธนาคารกรุงไทยลดสัดส่วนเหลือ 24.95% นำศักยภาพของกลุ่มบริษัทในเครือมาต่อยอดธุรกิจใช้จุดแข็งของ KTC ที่เชี่ยวชาญในธุรกิจรายย่อยมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ และขายผ่านเครือข่ายสาขาที่แข็งแกร่งของธนาคารที่ครอบคลุมทั่วประเทศ มั่นใจบริษัท KTB LEASING จะเติบโตและมีส่วนแบ่งในตลาดสินเชื่อรถยนต์เพิ่มขึ้น
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผยว่า หลังจากธนาคารมียุทธศาสตร์ในการปรับพอร์ต บริษัท KTB LEASING บูรณาการกระบวนการติดตามหนี้ และปรับแผนธุรกิจใหม่หมด ขณะนี้ธนาคารพร้อมที่จะผนึกกำลังนำจุดแข็งของกลุ่มธุรกิจมาส่งเสริมกันและกัน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และประสานประโยชน์ทางธุรกิจอย่างรอบด้าน โดยล่าสุดธนาคารปรับเปลี่ยนสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทกรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง หรือ KTB LEASING โดยจะให้บริษัทบัตรกรุงไทย หรือ KTC เข้าถือหุ้นในสัดส่วน 75.05% และธนาคารกรุงไทยลดการถือหุ้นเหลือเพียง 24.95% ซึ่งคณะกรรมการธนาคารได้อนุมัติแล้วในวันนี้ และอยู่ระหว่างเสนอขออนุมัติต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ KTC
"ธนาคารเชื่อมั่นว่า ความโดดเด่นและความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจสินเชื่อรายย่อยของ KTC ทั้งสินเชื่อบุคคล สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์จะช่วยเพิ่มสัดส่วนธุรกิจลีสซิ่งของบริษัท KTB LEASING โดยเฉพาะในส่วนของสินเชื่อกลุ่มตลาดรถยนต์ใหม่ รถมือ 2 และรถแลกเงิน ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีตลาดใหญ่ และมีศักยภาพในการเติบโต โดยลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการและผลิตภัณฑ์ผ่านทีมการตลาดของทั้งบริษัท ตลอดจนเครือข่ายสาขาของธนาคารกรุงไทยที่ครอบคลุมกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้ธนาคารกรุงไทยต่อยอดธุรกิจ และเพิ่มความสามารถในการทำรายได้"
นายผยง ศรีวณิช กล่าวในตอนท้ายว่า ที่ผ่านมา บริษัท KTB LEASING เน้นธุรกิจด้านเช่าซื้อเครื่องจักร ดังนั้น การดึง KTC มาถือหุ้นในครั้งนี้จะได้เห็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ช่วยเพิ่มความคึกคักให้แก่ตลาดลีสซิ่ง รวมทั้งเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้า ที่สำคัญจะเป็นการขยายฐานลูกค้า และเพิ่มผลตอบแทนให้แก่ธนาคาร ทั้งนี้ ปัจจุบันธนาคารกรุงไทยถือหุ้นใน KTC 49.3%