กรุงศรี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)(BAY)ในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) ประกาศแผนธุรกิจระยะกลางฉบับใหม่ปี 2564 – 2566 มุ่งสู่การเป็น “สถาบันการเงินไทยที่เป็นที่หนึ่งในใจลูกค้า พร้อมเชื่อมโยงความต้องการของลูกค้าทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน” เดินหน้าขับเคลื่อนด้วย 5 กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ ประกอบด้วย การปฏิรูปธุรกิจลูกค้ารายย่อยให้เป็นหนึ่งเดียว (One Retail Transformation) การเสริมสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจด้านลูกค้าธุรกิจ (Commercial Business Enhancement) การสร้างระบบนิเวศและพันธมิตรทางธุรกิจ (Ecosystem and Partnership) การขยายธุรกิจสู่ระดับภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Expansion) และการสร้างรายได้จากธุรกิจใหม่ (New Revenue Stream) พร้อมตั้งเป้าสินเชื่อปีนี้เติบโต 3-5%
นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากที่แผนธุรกิจ 3 ปีฉบับล่าสุดของธนาคารได้จบลงในปี 2563 ที่ผ่านมา ในปีนี้จึงได้จัดทำแผนธุรกิจระยะกลางฉบับใหม่ปี 2564-2566 โดยมุ่งให้ความสำคัญกับการตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น ควบคู่กับการเร่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดใหม่ ๆ ภายนอกประเทศ โดยได้วางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ 5 ประการ คือ 1) การปฏิรูปธุรกิจลูกค้ารายย่อยให้เป็นหนึ่งเดียว โดยอาศัยฐานข้อมูลลูกค้าขนาดใหญ่ของกรุงศรีเพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงความต้องการเฉพาะตัวของลูกค้าและสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกับประสบการณ์ลูกค้าในทุกช่วงชีวิต
2) การเสริมสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจด้านลูกค้าธุรกิจ ผ่านการเร่งสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับห่วงโซ่ธุรกิจ และการให้บริการข้ามกลุ่มลูกค้า 3) การสร้างระบบนิเวศของกรุงศรีเองและการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ เพื่อขยายฐานลูกค้า 4) การขยายธุรกิจสู่ระดับภูมิภาคอาเซียน เปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ สำหรับกรุงศรีและลูกค้าในตลาดอาเซียน โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการลงทุนและการช่วยเหลือลูกค้าในการแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ ในอาเซียน และ 5) การสร้างรายได้จากธุรกิจใหม่ โดยอาศัยความแข็งแกร่งและศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนาของกรุงศรีในการพัฒนานวัตกรรมโซลูชั่นใหม่ ๆ
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2564 ภายใต้ภาวะความไม่แน่นอนจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศไทย กรุงศรียังคงมุ่งให้ความสำคัญกับการให้ความช่วยเหลือลูกค้า การรักษาคุณภาพสินทรัพย์ให้แข็งแกร่งต่อเนื่อง และการบริหารค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน ก็เดินหน้าสู่เส้นทางใหม่ตามแผนธุรกิจระยะกลางฉบับใหม่ เพื่อก้าวสู่การเป็นสถาบันการเงินไทยที่เป็นที่หนึ่งในใจลูกค้าทั่วทั้งอาเซียน ซึ่งพร้อมเป็นพันธมิตรที่คอยช่วยเหลือและเชื่อมโยงทุกความต้องการด้านการเงินทั้งภายในประเทศและต่างประเทศอย่างครอบคลุมทั่วภูมิภาค
ทั้งนี้ ในปี 2564 กรุงศรีคาดว่าเงินให้สินเชื่อจะเติบโตในระดับ 3-5% และมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิที่ 3.1 – 3.3% การเติบโตของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอยู่ในระดับเดียวกับปีที่ผ่านมา และอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ระดับต่ำกว่า 2.7% โดยในส่วนของสินเชื่อนั้นจะให้ความสำคัญกับคุณภาพสินเชื่อเป็นอันดับแรกโดยจะเน้นที่สินเชื่อรายใหญ่คาดว่าจะเติบโตประมาณ 5-6% ขณะที่สินเชื่อเอสเอ็มอีและสินเชื่อรายย่อยจะเติบโตประมาณ 3-4% ขณะที่แนวทางการกันสำรองฯในนี้นั้น ยังคงอยู่ในระดับสูงแต่ก็น่าจะต่ำกว่าในปีที่แล้วที่มีการตั้งสำรองฯไว้ในระดับส เนื่องจากสถานการณ์โควิดฯที่ยังมีความเสี่ยงต่อคุณภาพหนี้อยู่ แต่คาดการณ์ว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้นในไตรมาส 2
ขณะเดียวกัน การพัฒนาระบบดิจิทัลแบงก์กิ้งก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยธนาคารได้ตั้งงบลงทุนด้านเทคโนโลยีไว้ปีละ 8,000-8,500 ล้านบาทต่อปี และตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่นสินเชื่อผ่านช่องทางดิจิทัลจากปัจจุบัน 3-5% เป็น 10%ในระยะต่อไป
สำหรับตลอดปี 2563 ที่ผ่านมา ในฐานะสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบของประเทศไทย กรุงศรีได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ความช่วยเหลือและลดภาระทางการเงินของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ขณะเดียวกัน กรุงศรีก็ยังสามารถส่งมอบผลประกอบการที่น่าพอใจ และเมื่อมองย้อนกลับไปที่แผนธุรกิจระยะกลางฉบับที่ 2 ซึ่งครอบคลุมปี 2561-2563 ที่ผ่านมา เราสามารถบรรลุเป้าหมายในการก้าวสู่การเป็นกลุ่มสถาบันการเงินชั้นนำของประเทศไทย โดยได้รับการยกย่องให้เป็นสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ พร้อมด้วยคุณภาพของสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง การเร่งขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และการขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเป็นฐานความพร้อมที่แข็งแกร่งในการเดินหน้าต่อไปตามแผนธุรกิจระยะกลางฉบับที่ 3