AOT เปิดงบไตรมาส 1/64 (สิ้นสุด ธ.ค.63) ขาดทุน 3,441 ล้านบาท ลดลง 146.93% หลังปิดประเทศกดดันรายได้จากนักท่องเที่ยว เที่ยวบิน ผู้โดยสารหดตัวลงจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำรายได้รวมลดลง 84% เตรียมเปิดเอกชนชิงพัฒนาที่ดินรอบสุวรรณภูมิ ส่วนสุวรรณภูมิเฟส 2 คาดเปิดใช้ปี 65
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยรายงานผลประกอบการรายไตรมาสผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ผลประกอบการงวดไตรมาส 1/64 (สิ้นสุด 31 ธ.ค.63) ขาดทุน 3,441.97 ล้านบาท หรือ -0.24 บาท/หุ้น ลดลง 146.93% จากงวดเดียวกันปี 63 ที่มีกำไร 7,334.71 ล้านบาท หรือ 0.51 บาท/หุ้น โดยไตรมาส 1/64 รายได้รวมลดลง 14,376.63 ล้านบาท หรือ 83.99% จากปริมาณการจราจรทางอากาศของท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ลดลง 53.50% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะเดียวกัน จำนวนผู้โดยสารรวมลดลง 70.79% จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19
ทั้งนี้ รายได้จากการขายหรือการให้บริการลดลง 86.49% จากการลดลงทั้งรายได้เกี่ยวกับกิจการการบิน 90.12% และรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบินลดลง 81.88% ส่วนรายได้อื่นลดลง 44.29%
ในส่วนของค่าใช้จ่ายรวมปรับตัวลดลง 1,364.47 ล้านบาท หรือ 17.60% โดยส่วนใหญ่เกิดจากการลดลงของค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุ ในขณะที่ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 570.77 ล้านบาท เนื่องจากดอกเบี้ยจ่ายของหนี้สินตามสัญญาเช่าเพิ่มขึ้น สำหรับภาษีเงินได้ลดลง 2,783.00 ล้านบาท หรือ 151.38% สอดคล้องกับผลการดำเนินงานที่ลดลง
ในส่วนของแผนการดำเนินการปี 64 นั้น AOT ได้จัดตั้งบริษัทเพื่อบริหารโครงการเกี่ยวกับสินค้าเน่าเสียง่าย สนามบินสุวรรณภูมิ (ทสภ.) และมีโครงการแอร์พอร์ตซิตี โดยมีแผนพัฒนาที่ดินแปลง 37 ที่อยู่ภายใน ทสภ. และที่ดินแปลง 723 ไร่ ที่อยู่ใกล้ ทสภ.ซึ่งจะเป็นการใช้ประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว โดย ทอท.จะคัดเลือกเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนต่อไป ขณะเดียวกัน ในส่วนของความคืบหน้าโครงการต่างๆ โดยแผนพัฒนา ทสภ.ระยะที่ 2 มีความคืบหน้าในการดำเนินงานก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1 : SAT-1) โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปี 65 โดยมีความล่าช้าจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้จำนวนแรงงานลดลง ส่วนความคืบหน้าโครงการพัฒนาขยายท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 ทอท.อยู่ระหว่างการจัดทำรายงานการเปลี่ยนแปลงด้านการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม