ทอท.เจอวิกฤตปี 64 ประเมินขาดทุนหนักแต่เพิ่งคิดได้ สั่งลดค่าใช้จ่ายผู้บริหาร หั่นค่ารับรอง 50% จากที่ได้เฉลี่ย 1-2 หมื่นบาท/เดือน ลดค่าน้ำมันรถ 20% จาก 200 ลิตร/เดือน ขณะที่งดบรรจุพนักงานใหม่แทนเกษียณ “นิตินัย” เผยผู้โดยสาร Q1/64 ทรุด
แหล่งข่าวจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า จากการประเมินสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของ ทอท.ที่พบว่าทำให้ผลประกอบการในปี 63 ลดลง ซึ่งได้มีมาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายโดยตั้งเป้าลดค่าใช้จ่ายลง 30% นั้น ล่าสุดคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.ได้มีการพิจารณาเห็นชอบมาตรการในปี 2564 โดยให้ ทอท.ยังคงดำเนินมาตรการลดค่าใช้จ่ายต่อเนื่องจากปี 2563 และให้เพิ่มเติมในการปรับลดค่าใช้จ่ายในส่วนของผู้บริหารลงด้วย ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2564
ได้แก่ 1. ปรับลดค่ารับรอง 50% ซึ่งผู้บริหารระดับ 9 (ผู้อำนวยการฝ่ายที่มีตำแหน่ง) จะได้รับ 10,000 บาท/เดือน หรือระดับ 10 (ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่, รองผู้อำนวยการท่าฯ, ผู้อำนวยการท่าฯ เชียงราย, ผอ.ท่าเชียงใหม่) ได้ 15,000 บาท/เดือน ระดับ 11 (รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่, ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ดอนเมือง, เชียงใหม่, ภูเก็ต) ได้ 20,000 บาท/เดือน
2. ลดค่าน้ำมันเชื้อเพลิงผู้บริหารตั้งแต่ระดับ 9 ขึ้นไปที่ได้รับรถประจำตำแหน่ง ลดลง 20% โดยซึ่งตามสิทธิจะได้สิทธิค่าน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยจำนวน 200 ลิตร/เดือน โดยเป็นบัตรเติมน้ำมันกับ ปตท. 3. ยกเลิกสิทธิเบิกค่าทางด่วนของผู้บริหาร
ในส่วนพนักงานนั้น ให้ชะลอการบรรจุทดแทนพนักงานเกษียณอายุ เสียชีวิต ลาออก ให้ออก ปลดออก เลิกจ้าง โดยบรรจุทดแทนเฉพาะกรณีภารกิจสำคัญ จำเป็น เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านเงินเดือน, ขอให้พนักงานตั้งแต่ระดับ 7 งดเบิกค่าล่วงเวลา ส่วนพนักงานทั่วไปให้ทำงานล่วงเวลาเท่าที่เหมาะสม, ชะลอการเพิ่มจำนวนการจ้างแรงงานภายนอก, ประชุมผ่านระบบคอนเฟอเรนซ์เพื่อลดค่าใช้จ่ายและค่าเบี้ยประชุม, พิจารณาสนับสนุนหน่วยงานภายนอกเท่าที่จำเป็น
สำหรับสัญญาจ้างหรือสัญญาเช่าที่ยังไม่สิ้นสุดสัญญา ให้พิจารณาเจรจาแก้ไขสัญญาปรับลดค่าใช้จ่ายให้เหมาะสม, เร่งรัดในการจัดทำข้อเสนอขอยกเว้นการจ่ายค่าตอบแทนการใช้ที่ราชพัสดุกับกรมธนารักษ์ เพื่อยกเว้นการจ่ายค่าตอบแทนขั้นต่ำ (minimum Guarantee) สำหรับท่าอากาศยานดอนมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต และค่าตอบแทนตามมูลค่าทรัพย์สิน (Return on Asset) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
แหล่งข่าวกล่าวว่า เมื่อช่วงปลายเดือน ธ.ค. 2563 ได้มีคำสั่ง ทอท.ที่ 2153/2563 แจ้งเรื่องผู้มีสิทธิเบิกค่ารับรอง และการมอบอำนาจให้พนักงานปฎิบัติงานแทน และสั่งการในนามกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สำหรับการอนุมัติและเบิกจ่ายค่ารับรอง โดยระบุว่า ระดับ 11 (รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ดอนเมือง, ภูเก็ต, เชียงใหม่) เบิกค่ารับรองได้ภายในวงเงินไม่เกิน 200,000 บาท/ปี
ระดับ 10 ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และระดับรอง ผอ.ท่าอากาศยาน 4 แห่ง, ผอ.ท่าฯ หาดใหญ่, ผอ.ท่าฯ เชียงราย, ฯลฯ เบิกค่ารับรองได้วงเงินไม่เกิน 150,000 บาท/ปี และระดับ 9 ผู้อำนวยการฝ่าย เบิกค่ารับรองได้วงเงินไม่เกิน 100,000 บาท/ปี
ด้านนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า ทอท.มีค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรประมาณ 250 ล้านบาท/เดือน ขณะที่ปริมาณจราจรและผู้โดยสารในช่วงไตรมาสแรกของปี 2564 (ต.ค.-ธ.ค. 2563) เดือนพ.ย. 63 เป็นเดือนที่มีจำนวนผู้โดยสารดีที่สุด เฉลี่ยรวมทุกสนามบินของ ทอท.มีจำนวน 3.8 ล้านคน หรือวันละ 127,000 คน โดยเป็นผู้โดยสารภายในประเทศเป็นส่วนใหญ่ ส่วนเดือน ธ.ค. 63 มี 3.4 ล้านคน เนื่องจากจ.สมุทรสาคร เกิดโควิดระลอกใหม่ ขณะที่เดือน ม.ค. 64 จำนวนผู้โดยสารรวมค่อยๆ ปรับลดจาก 107,000 คนต่อวัน เหลือ 15,000 คนเท่านั้น (ข้อมูลวันที่ 13 ม.ค.) ส่วนผู้โดยสารระหว่างประเทศ เหลือวันละ 700 คนเท่านั้น ซึ่งประเมินว่าผลประกอบการปี 64 จะขาดทุน ขณะที่ปัจจุบัน ทอท.มีกระแสเงินสดในมือกว่า 32,000 ล้านบาท ยังไม่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง