มหาเศรษฐี BITCOIN / สุนันท์ ศรีจันทรา

ตั้งแต่มีมนุษยชาติ ไม่มีสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงเท่า BITCOIN เงินสกุลดิจิทัลที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก เพราะภายในเวลา 12 ปี ให้ผลแทนกว่า 1,000,000%

นายซาโตชิ ซึ่งไม่อาจพิสูจน์ทรัพย์ว่า เป็นใคร มาจากไหน สัญชาติอะไร เป็นผู้คิดค้น เงินสกุล BITCOIN ขึ้นมา คนกลุ่มแรกๆ ที่ใช้เงินสกุลนี้คือ บรรดาแฮกเกอร์ที่เข้าไปโจรกรรมระบบคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือองค์กรต่างๆ และจะเรียกค่าไถ่เป็น BITCOIN แล้วแต่ว่าจะเรียกจำนวนเท่าใด ซึ่งผู้ถูกโจรกรรมต้องติดต่อขอซื้อจากผู้ที่ครอบครองไว้มาจ่ายเป็นค่าไถ่

หลังจากนั้น BITCOIN เริ่มได้รับความนิยม และไม่เฉพาะในธุรกิจสีเทา หรือขบวนการฟอกเงินเท่านั้น แต่องค์กรภาคธุรกิจทั่วโลกให้การยอมรับ โดยถือเป็นสินทรัพย์ประเภทหนึ่ง สามารถใช้จ่ายได้เช่นเดียวกับธนบัตรเงินสกุลต่างๆ และแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ทุกสกุล

จากเงินสกุลดิจิทัลที่แทบไม่มีใครรู้จักเมื่อ 12 ปีก่อน หรือเมื่อประมาณปี 2552 และมีราคาเพียงประมาณ 25 เซนต์ต่อ 1 BITCOIN หรือประมาณ 7.50 บาท เมื่อเทียบกับเงินบาท ในปัจจุบัน กลายเป็นเงินสกุลดิจิทัลหลักของโลก ราคาสูงลิบลิ่ว

ราคา BITCOIN เคยพุ่งทะยานเกือบ 20,000 ดอลลาร์ ก่อนจะตกรูดลงเหลือเพียงประมาณ 4,000 ดอลลาร์ เมื่อต้นปี 2563 แต่ดีดกลับขึ้นมาใหม่ จนต้นปี 2564 พุ่งขึ้นสูงสุดทะลุ 42,000 ดอลลาร์ และอ่อนตัวลงมาเหลือประมาณ 36,000 ดอลลาร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ภายในเวลาประมาณ 1 ปี BITCOIN พุ่งขึ้นประมาณ 1,000% พอๆ กับหุ้นบริษัท เดลต้า อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ซึ่งสิ้นปี 2562 ปิดที่ 53.50 บาท แต่สิ้นปี 2563 ทะยานขึ้นมาปิดที่ 486 บาทต่อหุ้น

คาดกันว่า ราคา BITCOIN มีแนวโน้มจะพุ่งขึ้นต่อไป เพราะความต้องการสูงขึ้น แม้จะเป็นเงินสกุลดิจิทัลที่ไม่อาจจับต้องได้ ไม่มีธนาคารกลางประเทศไหนให้การรับรอง แต่ทั่วโลกให้ความเชื่อถือ และสถาบันการเงิน หรือสถาบันการลงทุนชั้นนำของโลกก็ทยอยเก็บสะสมเป็นสินทรัพย์

ราคาที่คนในวงการ BITCOIN ประเมินกันไว้ อาจขยับขึ้นไปแตะระดับ 1 ล้านดอลลาร์ต่อ 1 BITCOIN แต่ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ หรือว่า จะเกิดขึ้นหลังจากคนรุ่นนี้ตายไปหมดแล้ว

จำนวน BITCOIN ที่นายซาโตชิ สร้างไว้มีจำนวนทั้งสิ้น 21 ล้านเหรียญ แต่หมุนเวียนในปัจจุบันมีประมาณ 18 ล้านเหรียญ ส่วนอีก 3 ล้านเหรียญที่เหลือจะต้องขุดหาเอาด้วยคอมพิวเตอร์ที่ขุด BITCOIN โดยเฉพาะ โดยคำนวณว่า จะใช้เวลาอีกประมาณ 150 ปี จึงจะขุดหมด

แรกเริ่มการขุด BITCOIN ถ้าพบจะได้ครั้งละ 50 เหรียญ แต่วันนี้ขุดยากขึ้น และถ้าพบจะได้ไม่ถึง 1 เหรียญ

สำหรับ จุดทศนิยมของ BITCOIN มีจำนวนทั้งสิ้น 24 หลัก หรือจุด 0 จำนวน 24 ตัว แต่ใช้กันอยู่ประมาณ 8 หลัก หรือจุด 0 จำนวน 8 ตัวเท่านั้น

เงินสกุลดิจิทัลที่ได้รับความนิยมรองลงมาคือ ETHEREUM ซึ่งราคาพุ่งแรงตาม BITCOIN ขึ้นมา โดยอยู่ที่ประมาณ 1,500 ดอลลาร์ต่อ 1 เหรียญ ETHEREUM และนักเก็งกำไรของไทยกำลังแห่เข้าไปเล่น จนมูลค่าการซื้อขายแต่ละวันใกล้เคียงกับ BITCOIN

ราคา BITCOIN และ ETHEREUM ที่ร้อนแรงมาในต้นปีนี้ กระตุ้นให้นักเก็งกำไรแห่เข้าไปลุยซื้อขายเงินดิจิทัลทั้ง 2 สกุล เพราะหวังรวยเร็วและรวยลัดกัน โดยเฉพาะนักเก็งกำไรรุ่นหนุ่มสาว

จำนวนผู้เปิดบัญชีซื้อขายเงินสกุลดิจิทัลรายใหม่ในปีนี้เพิ่มขึ้นล้นหลามอย่างน่าตกใจ จนบริษัทโบรกเกอร์หรือบริษัทที่เป็นนายหน้าซื้อขายบางแห่งเปิดรับลูกค้าแทบไม่ทัน แม้จะทำงานกันแทบทั้งวันทั้งคืน จนไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันก็ตาม

นักเก็งกำไรจำนวนนับหมื่นนับแสนที่แห่เปิดบัญชีซื้อขาย BITCOIN หรือเงินสกุลดิจิทัล ใครจะรวยจะจนไม่รู้

แต่ปีนี้จะมีมหาเศรษฐีหน้าใหม่ที่ร่ำรวยจาก BITCOIN อย่างน้อย 1 คนแน่ และเป็นมหาเศรษฐีหนุ่มวัยเพียง 31 ปีเท่านั้น

มหาเศรษฐีหนุ่มที่ร่ำรวยจาก BITCOIN รายนี้เป็นใคร อ่านต่อพรุ่งนี้