ตลาดหุ้นปี 2564 ร้อนระอุขั้นปรอทแตกจริงๆ ดัชนีหุ้นทะยานขึ้นแทบไม่มีวันหยุดพัก เพียงช่วงไม่ถึง 10 วันทำการบวกขึ้นมาเกือบ 100 จุด และ มีสิทธิวิ่งต่อจนทะลุ 1,600 จุดในรอบนี้
สิ้นปี 2563 ดัชนีหุ้นปิดที่ระดับ 1,449.35 จุด แต่สิ้นวันที่ 13 มกราคม 2564 ดัชนีหุ้นปิดที่ระดับ 1,547.31 จุด เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 97.96 จุด จุด หรือเพิ่มขึ้น 6.75% ภายใน 8 วันทำการ หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 12 จุด
แม้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบใหม่จะรุนแรง น่าหวั่นวิกตก แต่ ตลาดหุ้นกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบรับในเชิงลบ ราคาหุ้นไม่สั่นไหวไปกับตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่
บรรยากาศการซื้อขายที่คึกคักต่อเนื่องนับแต่เริ่มสู่ศักราชใหม่ไม่สามารถหาเหตุผลอธิบายได้อย่างเป็นรูปธรรม เพราะข่าวดีกระตุ้นการลงทุนไม่มี ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านย่านเอเชียก็เคลื่อนไหวในลักษณะประคองตัว จะมีปัจจัยสนับสนุนเพียงประการเดียวคือ นักลงทุนต่างชาติยังทยอยกลับเข้ามาไล่ซื้อหุ้น โดยคาดว่า เข้ามาช้อนเก็บหุ้นในกลุ่มพลังงาน กลุ่มโรงไฟฟ้า รวมทั้งกลุ่มธนาคารและกลุ่มนอนแบงก์ ซึ่งผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนขึ้นมาเป็นกลุ่มนำตลาดในแต่ละวัน
โบรกเกอร์หลายสำนักประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นปีนี้ว่า จะฟื้นตัวขึ้น โดยคาดการณ์เป้าหมายดัชนีหุ้นปลายปีที่ระดับ 1,600 จุด เช่นเดียวกับสภาธุรกิจตลาดทุนไทยที่มีมุมมองในทิศทางเดียวกัน
ปัจจัยบวกที่สนับสนุนมุมมองของโบรกเกอร์คือ เงินทุนไหลเข้าต่อเนื่อง หมายถึงแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติยังกลับเข้ามา จะมีวัคซีนเข้ามาหยุดวิกฤตโควิด-19 รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโตขึ้น
เป้าหมาย 1,600 จุดที่โบรกเกอร์ตั้งไว้เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอีก 11 เดือนข้างหน้า แต่ดัชนีหุ้นพุ่งขึ้นมายืนที่ระดับ 1,547.37 จุด โดยทะลุ 1,550 จุดมา 2 รอบ แต่ยังไม่ผ่าน ซึ่งหากต่างชาติยังโหมซื้อ หรือมีปัจจัยบวกกระตุ้น ดัชนีหุ้นคงตีฝ่าแนวต้าน 1,600 จุดได้ในรอบนี้ โดยไม่ต้องรอลุ้นถึงช่วงปลายปี
ตลาดหุ้นขึ้นมาแรงและเร็วมาก จนนักลงทุนบางส่วนเริ่มกังวลในความสูง และทยอยขายหุ้นทำกำไรมาตลอดเพื่อลดความเสี่ยงหากหุ้นเกิดการปรับฐานลง
แต่ยังไม่มีการปรับฐานใหญ่ หุ้นยังเหวี่ยงตัวขึ้นต่อเนื่อง และ มีโอกาสเห็นดัชนีหุ้นแตะระดับ 1,600 จุดได้
หุ้นกลุ่มหลักแทบทุกกลุ่มราคาวิ่งมาไกลมาก จนน่าจะหยุดพักบ้าง แต่มีแรงซื้อจุดพลุเข้ามาทุกวัน ผลักดันให้ดัชนีหุ้นไต่ระดับขึ้น และกลายเป็นตลาดหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นนับจากปีใหม่ เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านย่านเอเชีย
อย่างไรก็ตาม แม้ไม่มีสัญญาณการปรับฐานรุนแรง แต่ดัชนีหุ้นที่ทะลุขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,550 จุด ทำให้อัตราความเสี่ยงการลงทุนระยะสั้นสูงขึ้น ขณะที่ช่องว่างในการทำกำไรแคบลง และนักลงทุนรายย่อยได้ปรับกลยุทธ์ หันมาชิงจังหวะขายมากกว่าจะไล่ซื้อหุ้น โดยขายหุ้นสุทธินับจากต้นปีรวม 11,143.58 ล้านบาทแล้ว
แนวต้านด่านต่อไปที่ระดับ 1,600 จุด แม้อยู่ไม่ไกล ไม่ง่ายที่จะได้เห็น เพราะเหนือจากระดับ 1,550 จุดขึ้นไป แรงขายจะหนาแน่นมากขึ้น โดยเฉพาะแรงขายจากนักลงทุนรายย่อยที่เห็นว่า
ดัชนีหุ้นที่พุ่งทะลุ 1,550 จุด เป็นโอกาสในการเทขายทำกำไร และขายจนชน 1,550 จุดแล้วไปต่อไม่ไหวถึง 2 รอบแล้ว
