เมื่อสัปดาห์ก่อน นักลงทุนเฝ้าลุ้นกันอยู่ว่า ดัชนีหุ้นจะตีฝ่าทะลุ 1,500 จุดขึ้นมาได้หรือไม่ แต่สัปดาห์นี้ ต้องภาวนาว่าดัชนีหุ้นคงไม่หลุดจากระดับ 1,400 จุดไปมากนัก
เพียงชั่วข้ามสัปดาห์ สถานการณ์การลงทุนในตลาดหุ้นเกิดความพลิกผันรุนแรง จากแนวโน้มขาขึ้น เปลี่ยนสู่ขาลงเต็มตัว นักลงทุนที่หาจังหวะช้อนซื้อหุ้นเก็บเพื่อรอทำกำไรในปีหน้า กลับต้องเทขายหุ้นหนีตาย
การแพร่ระบาดใหม่หรือระบาดรอบสองของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีจุดศูนย์กลางที่ตลาดกลางกุ้ง จังหวัดสมุทรสาคร เป็นข่าวร้ายปัจจัยลบ จุดชนวนให้เกิดความตื่นตระหนก โดยเฉพาะนักลงทุนในตลาดหุ้น
แรงขายไหลทะลักเข้ามาตั้งแต่เปิดการซื้อขายหุ้น เช้าวันจันทร์ที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นดิ่งลงทันทีกว่า 50 จุด แม้จะเด้งกลับขึ้นมาบ้าง แต่สุดท้ายต้านทานแรงขายไม่ไหว และเมื่อปิดการซื้อขาย ดัชนีหุ้นทรุดลงไป 80.60 จุด หรือลดลง 5.44% โดยปิดที่ 1,401.78 จุด มูลค่าซื้อขาย 1.29 แสนล้านบาท
ความหวาดผวาการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19 เป็นสาเหตุสำคัญการถล่มทลายของตลาดหุ้น
เพราะถ้าควบคุมการแพร่กระจายไม่อยู่ การระบาดลุกลามในวงกว้าง การล็อกดาวน์จะตามมา การท่องเที่ยวที่เริ่มเห็นแสงสว่างรำไร จะดับวูบลงอีกครั้ง เศรษฐกิจที่คาดว่าจะกระเตื้องขึ้นในปีหน้า อาจฟุบยาว นักลงทุนที่กลัวความเสี่ยง จึงชิงขายหุ้นทิ้ง
ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า เชื้อไวรัสที่แพร่กระจายในจังหวัดสุมทรสาคร เป็นสิ่งที่น่ากังวล
เพราะถ้าลุกลามข้ามจังหวัดไปในวงกว้าง ประเทศไทยจะตกอยู่ในวิกฤต เช่นเดียวกับประเทศอื่นทั่วโลก
ดัชนีหุ้นที่พุ่งทะยานขึ้นจากระดับ 1,170 จุด ขึ้นมาระดับ 1,480 จุด หรือขึ้นมากว่า 300 จุด เพราะประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้อย่างดีเยี่ยม จนเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวกลับมา และแนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว
ขณะที่ ต่างชาติขนเงินกลับมาไล่ช้อนซื้อหุ้น ผลักดันตลาดหุ้นกลับสู่ความร้อนแรง
แต่ผลกระทบจากเชื้อไวรัสโควิด-19 กลับมาเป็นปัจจัยชี้นำตลาดหุ้นอีกครั้ง ซึ่งหากการแพร่ระบาดลุกลาม หุ้นมีแนวโน้มที่จะถูกฉุดให้ลงได้ต่อ แต่ถ้าสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ดี การปรับฐานใหญ่ของตลาดหุ้น อาจเกิดขึ้นเพียงช่วงสั้นๆ และสามารถดีดตัวกลับขึ้นมาได้
นักลงทุนจึงต้องเฝ้าติดตามการรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในแต่ละวันอย่างใกล้ชิด เพราะจะเป็นสิ่งที่บ่งชี้ว่า หุ้นจะฟื้นหรือฟุบ
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสถานการณ์เลวร้าย ก็มีสิ่งที่ดีสอดแทรกอยู่เหมือนกัน โดยดัชนีหุ้นที่ทรุดลง 80 จุด นักลงทุนพากันคิดว่า ต่างชาติคงถล่มขายหุ้นหนักต่อเนื่องจากเมื่อวันศุกร์ที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งต่างชาติเทขายหุ้นสุทธิกว่า 5 พันล้านบาท
แต่นักลงทุนกลุ่มที่ถล่มขายคือ กองทุนในประเทศและพอร์ตโบรกเกอร์ ส่วนต่างชาติและนักลงทุนรายย่อยผนึกกำลังกันซื้อ แต่ต้านแรงขายไม่ไหวเท่านั้น
ภายในพริบตา ดัชนีหุ้นทรุดลงมายืนที่ระดับ 1,401.78 จุด และมีแนวโน้มที่จะหลุด 1,400 จุด ถ้าสถานการณ์โควิด-19 ยังไม่น่าไว้วางใจ แต่คงไม่หลุดจากระดับ 1,400 จุดไปมากนัก
เพราะเมื่อวันจันทร์ซึมซับรับข่าวร้ายไปมากแล้ว และการที่นักลงทุนต่างชาติกลับมาช้อนซื้อหุ้น จะส่งผลเชิงบวกด้านจิตวิทยาการลงทุน
ถ้าฝรั่งยังไม่เผ่น คงพออุ่นใจได้ว่า การปรับฐานรอบนี้อาจเกิดขึ้นเพียงระยะสั้นเท่านั้น แต่ ถ้าโควิด-19 ลุกลาม หุ้นมีสิทธิซึมยาวเหมือนกัน