ผู้จัดการรายวัน 360 - ตลาดหุ้นไทยคึกคักสวนภูมิภาค หลังนักลงทุนต่างชาติแห่ลงทุน รับโบรกเกอร์ต่างชาติปรับเพิ่มมุมมองเศรษฐกิจ-ตลาดหุ้นไทย ทำให้ยอดซื้อสุทธิทะลักเฉียด 6.7 พันล้านบาท ดันดัชนีบวก 29 จุด เพิ่มขึ้น 2% ปิดที่ 1,478.92 จุด มูลค่าซื้อขายรวมกว่า 1.23 แสนล้านบาท
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (8 ธ.ค.) ดัชนีปรับตัวลดลงเล็กน้อยในช่วงเปิดการซื้อขาย หลังจากนั้นได้กลับมายืนอยู่ในแดนบวก และปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงจากเม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ โดยไต่ระดับแตะจุดสูงสุดที่ 1,484.73 จุด ต่ำสุดที่ 1,442.65 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 1,478.92 จุด เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 29.09 จุด คิดเป็น 2.01% มูลค่าการซื้อขายคึกคักกว่า 123ฐ462.49 ล้านบาท
โดยนักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิกว่า 6,688.08 ล้านบาท สถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 1,558.23 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 62.90 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อย ขายสุทธิ 5,192.75 ล้านบาท
สำหรับหลักทรัพย์ที่มูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ราคาปิด 123 บาท เพิ่มขึ้น 6.50 บาท หรือ 5.58% มูลค่าการซื้อขาย 8,205.19 ล้านบาท บมจ.ปตท. (PTT) ปิดที่ 43.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.58% มูลค่า 5,075.18 ล้านบาท และบมจ.ศักดิ์สยามลิสซิ่ง (SAK) ที่เข้ามาซื้อขายเป็นวันแรก ปิดที่ 8.20 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท หรือ 121.62% มูลค่า 4,750.82 ล้านบาท
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียสำคัญๆ ต่างปรับตัวลดลงกันถ้วนหน้า อาทิ ตลาดหุ้นโตเกียว ดัชนีนิกเกอิ ปิดที่ 26,467.08 จุด ลดลง 80.36 จุด หรือ 0.30% และตลาดหุ้นจีนปิด ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ปิดที่ 3,410.18 จุด ลดลง 6.43 จุด หรือ 0.19% เป็นต้น
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแรกกว่าที่คาดการณ์ไว้ และดีกว่าตลาดต่างเทศ โดยเฉพาะตลาดหุ้นเอเชียที่ล้วนปรับตัวลดลง โดยตลาดหุ้นไทยได้รับแรงหนุนหลักจาก Fund Flow ไหลเข้า หลังจากโบรกเกอร์ต่างชาติปรับเพิ่มมุมมองต่อเศรษฐกิจไทยและตลาดหุ้นไทย ส่งผลให้ดัชนีฯทะยานขึ้นทะลุแนวต้านสำคัญ 1,460 จุดได้ และมีโอกาสขึ้นทดสอบระดับ 1,500 จุด แต่ระหว่างทางระวังอาจมีการพักตัวบ้าง จึงต้องระวังความผันผวนหลังจากตลาดเป็นขาขึ้น
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันนี้ (9 ธ.ค.) ดัชนีสามารถยืนเหนือ 1,460 จุดขึ้นไปได้ จึงมีโมเมนตัมเป็นบวก แต่ต้องระวังความผันผวนเนื่องจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศยังไม่นิ่ง และปัจจัยนอกประเทศก็ไม่ได้หนุนในทางบวกมากจากประเด็นการฉีดวัคซีนต้านโควิด รวมถึงยังต้องจับตาทิศทาง Fund Flow เป็นหลักด้วย เพราะหากยังเข้ามาก็จะเป็นแรงซื้อเข้ามาที่หุ้นขนาดใหญ่ พร้อมให้แนวรับ 1,460-1,455 จุด ส่วนแนวต้าน 1,490 จุด
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (8 ธ.ค.) ดัชนีปรับตัวลดลงเล็กน้อยในช่วงเปิดการซื้อขาย หลังจากนั้นได้กลับมายืนอยู่ในแดนบวก และปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงจากเม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ โดยไต่ระดับแตะจุดสูงสุดที่ 1,484.73 จุด ต่ำสุดที่ 1,442.65 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 1,478.92 จุด เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 29.09 จุด คิดเป็น 2.01% มูลค่าการซื้อขายคึกคักกว่า 123ฐ462.49 ล้านบาท
โดยนักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิกว่า 6,688.08 ล้านบาท สถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 1,558.23 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 62.90 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อย ขายสุทธิ 5,192.75 ล้านบาท
สำหรับหลักทรัพย์ที่มูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ราคาปิด 123 บาท เพิ่มขึ้น 6.50 บาท หรือ 5.58% มูลค่าการซื้อขาย 8,205.19 ล้านบาท บมจ.ปตท. (PTT) ปิดที่ 43.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.58% มูลค่า 5,075.18 ล้านบาท และบมจ.ศักดิ์สยามลิสซิ่ง (SAK) ที่เข้ามาซื้อขายเป็นวันแรก ปิดที่ 8.20 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท หรือ 121.62% มูลค่า 4,750.82 ล้านบาท
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียสำคัญๆ ต่างปรับตัวลดลงกันถ้วนหน้า อาทิ ตลาดหุ้นโตเกียว ดัชนีนิกเกอิ ปิดที่ 26,467.08 จุด ลดลง 80.36 จุด หรือ 0.30% และตลาดหุ้นจีนปิด ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ปิดที่ 3,410.18 จุด ลดลง 6.43 จุด หรือ 0.19% เป็นต้น
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแรกกว่าที่คาดการณ์ไว้ และดีกว่าตลาดต่างเทศ โดยเฉพาะตลาดหุ้นเอเชียที่ล้วนปรับตัวลดลง โดยตลาดหุ้นไทยได้รับแรงหนุนหลักจาก Fund Flow ไหลเข้า หลังจากโบรกเกอร์ต่างชาติปรับเพิ่มมุมมองต่อเศรษฐกิจไทยและตลาดหุ้นไทย ส่งผลให้ดัชนีฯทะยานขึ้นทะลุแนวต้านสำคัญ 1,460 จุดได้ และมีโอกาสขึ้นทดสอบระดับ 1,500 จุด แต่ระหว่างทางระวังอาจมีการพักตัวบ้าง จึงต้องระวังความผันผวนหลังจากตลาดเป็นขาขึ้น
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันนี้ (9 ธ.ค.) ดัชนีสามารถยืนเหนือ 1,460 จุดขึ้นไปได้ จึงมีโมเมนตัมเป็นบวก แต่ต้องระวังความผันผวนเนื่องจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศยังไม่นิ่ง และปัจจัยนอกประเทศก็ไม่ได้หนุนในทางบวกมากจากประเด็นการฉีดวัคซีนต้านโควิด รวมถึงยังต้องจับตาทิศทาง Fund Flow เป็นหลักด้วย เพราะหากยังเข้ามาก็จะเป็นแรงซื้อเข้ามาที่หุ้นขนาดใหญ่ พร้อมให้แนวรับ 1,460-1,455 จุด ส่วนแนวต้าน 1,490 จุด
