แม้จะมี เสียงเตือนจากโบรกเกอร์ทุกสำนัก ให้ระมัดระวังหุ้นบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA แต่ราคาหุ้นยังพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง จนตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขาย
DELTA ถูกกำหนดให้ซื้อขายด้วยบัญชีเงินสดหรือแคชบัลลานซ์ ห้ามซื้อขายหักกลบลบหนี้ภายในวันเดียว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 6-26 มกราคมนี้
ราคาหุ้น DELTA ที่กำลังทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงตั้งแต่ปีใหม่ โดยเฉพาะวันอังคารที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา ราคาพุ่งขึ้น 128 บาท ปิดที่ 656 บาท แต่ในวันที่ 6 มกราคม หลังจากถูกมาตรการกำกับการซื้อขาย ราคาดิ่งลงมาปิดที่ 568 บาท ลดลง 88 บาท
ถ้าเทียบกับราคาปิดเมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา ในราคา 656 บาท DELTA เป็นหุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เกตแคปใหญ่อันดับ 3 รองจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT
มาร์เกตแคป DELTA มีจำนวนทั้งสิ้น 818,282 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.887% ของมาร์เกตแคปตลาดหลักทรัพย์ฯ จำนวนทั้งสิ้น 16.74 ล้านบาท โดยน้ำหนักในการคำนวณดัชนีหุ้น 73.5 จุด ซึ่งหมายความว่า การขึ้นหรือลงหุ้น DELTA 10% จะเท่ากับขึ้นหรือลงของดัชนีหุ้น 7.35 จุด
และวันที่ 5 มกราคม ซึ่ง DELTA ปรับตัวเพิ่มขึ้น 128 บาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 24.24% จึงดันดัชนีหุ้นขึ้นมาประมาณ 17 จุด จากดัชนีหุ้นที่ปรับตัวขึ้นในวันนั้น 38.41 จุด
หุ้น DELTA เพียงตัวเดียวสามารถทำให้ภาพโดยรวมของตลาดหุ้นบิดเบือน โดยหุ้นส่วนใหญ่อาจซบเซา แต่ถ้า DELTA พุ่งขึ้นแรง จะผลักดันดัชนีหุ้นเป็นบวกได้ ทำให้คนทั่วไปคิดว่า บรรยากาศการลงทุนสดใส
นอกจากนั้น การขึ้นลงของ DELTA ยังมีผลโดยตรงต่อการซื้อขายสัญญาล่วงหน้า SET50 หรือฟิวเจอร์ส SET50 ด้วย จน DELTA อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกำหนดความเคลื่อนไหว SET50 สำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่ซื้อขายสัญญาล่วงหน้า
เพราะปริมาณหุ้นที่ซื้อขายหมุนเวียนในตลาดหลักทรัพย์มีน้อยมาก โดยจำนวนหุ้นทั้งหมด 1,247.38 ล้านหุ้น แต่ อยู่ในมือนักลงทุนรายใหญ่และนักลงทุนสถาบันที่ถือหุ้นเกิน 4% จำนวนรวมกันประมาณ 90% ของทุนจดทะเบียน
จึงมีหุ้นหมุนเวียนซื้อขายประมาณ 10% หรือประมาณ 124 ล้านหุ้นเท่านั้น ทำให้ ง่ายต่อการลากราคาหุ้น
แม้ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเข้าตรวจสอบการซื้อขายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาหุ้นพุ่งทะยานอย่างร้อนแรง แต่นายภากร ปิตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ออกมายืนยันว่า ไม่พบความผิดปกติ การซื้อขาย DELTA ยังกระจายตัว ไม่กระจุกตัวอยู่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งคงเป็นข้อเท็จจริง
เพราะ DELTA กลายเป็นหุ้นมวลชน เป็นหุ้นยอดนิยมของนักเก็งกำไรที่ชอบการได้เสีย และรายย่อยแห่เข้าไปลุยซื้อขายในวงกว้าง ชนิดที่ ไม่มีใครกลัวตาย
ในทางปัจจัยพื้นฐาน ไม่อาจประเมินถึงแนวโน้มหุ้น DELTA ได้แล้ว เพราะราคาปัจจุบัน เกินมูลค่าความเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐาน และมีค่าพี/อี เรโช ประมาณ 130 เท่า การซื้อขายจึงเป็นไปด้วยการเก็งกำไรล้วนๆ
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ทุกสำนักแนะนำให้หลีกเลี่ยง DELTA แต่ก็มีนักลงทุนที่ชอบเล่นกับไฟ เข้าไปลุยหุ้นร้อนตัวนี้จำนวนไม่น้อย
การประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขาย สามารถดับความร้อนแรงของหุ้น DELTA ได้ แต่จะดับได้เพียงชั่วคราวหรือไม่ นักลงทุนกำลังเฝ้าจับตาอยู่
เพราะ DELTA ทำท่าจะเดี้ยงมาหลายรอบแล้ว แต่เด้งกลับขึ้นมาทุกครั้ง เพียงแต่ เจอมาตรการแคลชบัลลานซ์รอบนี้ จะมีโอกาส "เด้ง" ขึ้นมาใหม่ หรือ “ดับ” ไปเลยเท่านั้น