นักลงทุนที่ได้โควตาจัดสรรหุ้น บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX คงยิ้มแย้มแจ่มใส เพราะโกยกำไรงามๆ จากหุ้นน้องใหม่ตัวนี้ ไม่ว่าจะขายในราคาใดก็ตาม
แต่สำหรับนักเก็งกำไรที่แห่เข้าไปไล่ซื้อ KEX ในช่วงแรกที่เปิดการซื้อขายคงเจ็บเนื้อเจ็บตัวหนัก เพราะราคาหุ้นที่ถูกลากขึ้นไปสู่ยอดดอย ถูกถล่มจนดิ่งลงรุนแรง จนขายหนีตายกันไม่ทัน
KEX เป็นผู้ให้บริการส่งพัสดุด่วนภาคเอกชนแบบครบวงจร นำหุ้นจำนวน 300 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 50 สตางค์ เสนอขายนักลงทุนเป็นครั้งแรกในราคาหุ้นละ 28 บาท โดยหุ้นเป็นที่ต้องการของนักลงทุน จนปริมาณการจองล้นหลายเท่าตัวของจำนวนหุ้นที่นำเสนอขายทั้งหมด
หุ้นเข้าซื้อขายวันแรก 24 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยเปิดที่ 65 บาท ก่อนจะถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 73 บาท หลังจากนั้นมีแรงขายทะลักเข้ามาจนลงไปต่ำสุดที่ 46 บาท และดีดตัวขึ้นมาปิดที่ 51.25 บาท สูงกว่าราคาจอง 23.25 บาท หรือสูงกว่าจอง 83%
ราคาที่เสนอขายนักลงทุนทั่วไปหุ้นละ 28 บาทนั้น มีค่าพี/อี เรโช ประมาณ 32 เท่า นักวิเคราะห์หลักทรัพย์โบรกเกอร์บางแห่งจึงมองว่า ราคาหุ้น KEX ที่เสนอขายนั้นแพงไปหน่อย และไม่เปิดช่องว่างการทำกำไรมากนัก
ยิ่งถูกลากขึ้นไปที่ 73 บาท ถือว่าร้อนแรงและแพงมาก จึงสมควรแล้วที่จะถูกทุบขายจนราคาดิ่งเหวลงมา
ราคาหุ้นที่พุ่งทะยานไปสูงกว่าราคาจองกว่า 150% ในการเปิดซื้อขายช่วงแรกนั้นน่าจะเกิดจากแรงซื้อเพื่อการเก็งกำไรล้วนๆ โดยเฉพาะแรงซื้อจากนักลงทุนรายย่อยที่อาจนำหุ้น KEX ไปเปรียบเทียบกับหุ้นบริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IND ที่เข้าซื้อขายในตลาด mai เมื่อวันอังคารที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา และวันแรกราคาเกือบพุ่งขึ้นชนเพดานสูงสุด 200%
นักเก็งกำไรอาจคิดว่า KEX คงพุ่งแรงเหมือน IND จึงไล่ซื้อหุ้นกันฝุ่นตลบ ไล่ราคาอย่างไม่กลัวตาย
ทั้งที่ KEX มีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับ IND และไม่อาจนำหุ้น 2 ตัวนี้มาเปรียบเทียบกันได้ โดย KEX เป็นหุ้นที่มีขนาดใหญ่กว่า จำนวนหุ้นที่เสนอขาย 300 ล้านหุ้น ปริมาณหุ้นที่หมุนเวียนซื้อขายมากกว่า ขณะที่ IND เป็นหุ้นขนาดเล็ก จำนวนหุ้นที่เสนอขายนักลงทุนมีเพียง 90 ล้านหุ้น ปริมาณหุ้นหมุนเวียนมีน้อยจึงง่ายต่อการจุดพลุราคาหุ้น
ราคาหุ้นที่พุ่งแรงในช่วงแรกของการเปิดซื้อขายวันแรกจึงน่าจะเกิดจากแรงซื้อนักเก็งกำไรรายย่อย แต่เมื่อราคาปรับตัวขึ้นสูงกว่าจองระดับ 150% ได้จูงใจให้นักลงทุนที่ได้โควตาจองซื้อไว้เทขายทำกำไร รวมทั้งนักลงทุนสถาบัน ซึ่งแม้มีเจตนาจองซื้อเพื่อการลงทุนระยะยาว
แต่เมื่อระยะสั้นหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นระดับ 150% จึงตัดสินใจเทขายทำกำไรเสียก่อน และฉุดให้หุ้นดิ่งลงอย่างรวดเร็ว จากสูงสุดที่ 73 บาท ทรุดลงมาเหลือต่ำสุดที่ 46 บาท ลดลงชั่วพริบตา 27 บาท ประมาณ 35% และทำให้นักเก็งกำไรประเภทเสือปืนไวติดยอดดอยกันเป็นแถว
KEX เป็นหุ้นอนาคตดี ธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แต่หุ้นดี ถ้าราคาแพงเกินไปก็สามารถเปลี่ยนเป็นหุ้นตัวร้ายได้เหมือนกัน
และราคาที่ขึ้นลงอย่างหวือหวาในวันแรก ทำให้ KEX กลายเป็นหุ้นน้องใหม่ตัวร้ายที่เล่นงานนักเก็งกำไรประเภทเสือปืนไว ถูกหามส่งเข้าห้องไอซียูกันเป็นแถว
ใครที่ติด KEX ไว้แถวราคา 70 บาท อาจต้องร้องเพลง