คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น กางแผนโชว์ศักยภาพธุรกิจปี 64 เน้นขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมถึงธุรกิจโทรคมนาคม และเทรดดิ้งที่ยังเป็นรายได้หลัก เชื่อภาพรวมอุตสาหกรรมยังสดใส ผู้บริหารเผยพร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่ๆ ทุกโครงการต่อยอดรายได้และกำไรสุทธิให้เติบโตโดดเด่น โดยตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20%
นายสมพงษ์ กังสวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (CSS) เปิดเผยว่าบริษัทฯ มั่นใจในศักยภาพการเติบโตของรายได้ และกำไรสุทธิในปี 2564 ของกลุ่มบริษัทฯ จะเติบโตอย่างโดดเด่น เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เวียดนาม 100 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่ลาว 5 เมกะวัตต์ ที่ดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้ว
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2564 ยังคงมีนโยบายที่จะขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเล็งเห็นว่าเป็นธุรกิจที่จะสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอและมีความมั่นคงในระยะยาว ในขณะที่ธุรกิจบริการติดตั้งระบบโทรคมนาคมยังได้รับอานิสงส์การลงทุนโครงข่าย 5G ที่สนับสนุนให้เห็นเม็ดเงินลงทุนเข้าสู่ระบบมากขึ้น ทำให้ CSS มีโอกาสได้รับงานใหม่ๆ เพิ่มขึ้นจากลูกค้าหลัก เพื่อต่อยอดรายได้และสร้างฐานธุรกิจให้แข็งแกร่งและมั่นคงต่อไปในอนาคต พร้อมตั้งเป้ารายได้รวมแตะระดับ 3,800 ล้านบาท หรือเติบโต 20%
"บริษัทฯ ยังคงมีนโยบายที่จะขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพราะมีส่วนเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพธุรกิจของบริษัทฯ อีกทั้งช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และทำให้รายได้และกำไรของบริษัทฯ เติบโตยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศและกระจายความเสี่ยงในการทำธุรกิจอีกด้วย ส่วนงานบริการติดตั้งระบบโทรคมนาคม และธุรกิจเทรดดิ้ง CSS พร้อมที่จะเข้าประมูลงานทุกงาน เพราะเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคตเช่นกัน"
นายสมพงษ์ กล่าวต่อถึงภาพรวมธุรกิจพลังงานทดแทนปี 2564 เชื่อว่ายังเป็นธุรกิจที่มีความโดดเด่น เพราะเป็นพลังงานทางเลือกที่เป็นที่ต้องการของตลาด และยังสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้แก่ประเทศอีกด้วย ในขณะที่ธุรกิจบริการติดตั้งระบบโทรคมนาคม ยังได้รับอานิสงส์การลงทุนโครงข่าย 5G ที่สนับสนุนให้เห็นเม็ดเงินลงทุนเข้าสู่ระบบมากขึ้น ส่วนธุรกิจเทรดดิ้งยังคงได้รับปัจจัยบวกจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ภายในประเทศที่ภาครัฐมีการลงทุนโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง