ตลาดหุ้นเข้าสู่ยุคกระทิงดุอย่างเต็มตัว ดัชนีหุ้นพุ่งทะยานผ่านระดับ 1,200 จุด ระดับ 1,300 จุด และ 1,400 จุดโดยไม่ต้องลุ้น เพราะมีแรงซื้อจากต่างชาติทะลักเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนไม่อาจคาดเดาได้ว่า ขาขึ้นรอบใหญ่ครั้งนี้จะจบลงเมื่อใด
หุ้นในยามขาลงมักไม่ตอบรับข่าวดีใดๆ ราคาถูกขนาดไหนก็ยังมีแรงขาย จะเชียร์อย่างไรหุ้นก็ไม่ยอมฟื้น เช่นเดียวกัน หุ้นในยามขาขึ้น ทำอย่างไรก็ฉุดไม่อยู่ แม้จะมีข่าวร้าย แม้ราคาหุ้นจะดีดตัวขึ้นสูง แต่ก็มีแรงซื้อหนุนมาไม่ขาดสาย เช่นเดียวกับขาขึ้นรอบนี้
จากดัชนีหุ้นที่ระดับ 1,170 จุด และมีแนวโน้มว่า จะถอยลงไปที่ระดับ 1,150 จุด แต่เพียงไม่กี่สัปดาห์ ดัชนีหุ้นก็วิ่งขึ้นมาม้วนเดียวกว่า 200 จุด และมีสิทธิที่จะขยับขึ้นไปแตะที่ระดับ 1,450 จุดอีกด้วย
ข่าวดีการพัฒนาวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นจุดเปลี่ยนของตลาดหุ้น จากแนวโน้มซึมลง กลับกลายเป็นความคึกคักสุดเหวี่ยง โดยนักลงทุนต่างชาติเป็นกลุ่มที่จุดพลุนำ
ประมาณ 2 สัปดาห์ ต่างชาติกลับมาช้อนซื้อหุ้นแล้วกว่า 40,000 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนรายย่อยขายหุ้นออกกว่า 40,000 ล้านบาทเหมือนกัน และถือเป็นการผ่องถ่ายหุ้นระหว่างต่างชาติกับรายย่อย
ก่อนการปรับตัวขึ้นครั้งใหญ่ของตลาดหุ้นรอบนี้ นักลงทุนรายย่อยเป็นผู้แบกหุ้นต้นทุนสูง เพราะเป็นกลุ่มที่ช้อนซื้อหุ้นมาตลอดนับจากต้นปี โดยมียอดซื้อหุ้นสุทธิกว่า 2.4 แสนล้านบาท ส่วนต่างชาติมียอดขายหุ้นสุทธิกว่า 3 แสนล้านบาท
ดัชนีหุ้นปีนี้ขึ้นสูงสุดที่ระดับ 1,600 จุดเศษ ต่ำสุดที่ระดับ 969 จุด และล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ปิดที่ระดับ 1,420.43 จุด ซึ่งต้นทุนเฉลี่ยของนักลงทุนรายย่อยน่าจะต่ำกว่าระดับ 1,400 จุด เพราะช้อนหุ้นเก็บตลอดทาง
หุ้นที่ช้อนเก็บมาล้วนเป็นหุ้นที่ต่างชาติเทขายทิ้ง โดยรายย่อยสวนหมัดต่างชาติ จนกลัวกันว่าจะเจ็บหนัก
แต่สถานการณ์ตลาดหุ้นที่พลิกสู่แนวโน้มขาขึ้น กำลังทำให้รายย่อยเป็นนักลงทุนกลุ่มที่น่าอิจฉา เพราะตุนหุ้นไว้เต็มกระเป๋า เฉลี่ยแล้วต้นทุนต่ำกว่าปัจจุบัน ช่วงเวลานี้จึงเป็นเวลาเก็บเกี่ยวกำไรของรายย่อย เพียงแต่จะรอจังหวะขายช่วงไหนเท่านั้น
มีคำถามว่า รายย่อยควรชิงจังหวะขายทำกำไรช่วงนี้หรือไม่ และถ้าขายจะขายหมูหรือไม่
ไม่มีใครรู้ว่าหุ้นรอบนี้จะวิ่งไปถึงไหน จะตีฝ่าแนวต้านระดับ 1,450 จุดพ้นหรือไม่ และต่างชาติจะปิดรอบเมื่อไหร่ จึงมีความเสี่ยงสำหรับการพักฐาน เพราะระดับราคาหุ้นขนาดใหญ่เริ่มสูง
อย่างไรก็ตาม ประเมินจากการกลับมาของต่างชาติแล้ว แรงซื้อไม่น่าจะหมดลงง่ายๆ และรอบ 4 ปีที่ผ่านมา ขายหุ้นออกกว่า 6 แสนล้านบาท เพิ่งกลับมาซื้อเพียง 4 หมื่นล้านบาทเศษเท่านั้น จึงมีโอกาสที่จะซื้อต่อ
ถ้าต่างชาติซื้อต่อ ดัชนีฯ มีโอกาสผ่านทะลุ 1,450 จุด รายย่อยจึงอาจทนใจแข็ง รอไปขายทำกำไรแถวดัชนีหุ้น 1,450 จุดก็ได้
แต่สำหรับคนที่ใจไม่แข็งพอ กลัวความสูง กลัวความเสี่ยงจากการพักฐาน อาจแบ่งหุ้นบางส่วนทยอยขายทำกำไรออกมาบ้างก็ไม่เสียหาย
ถ้าใจสู้ จะรอขายที่ระดับ 1,450 จุดก็มีความเป็นไปได้ แบกหุ้นต้นทุนสูงมานานแล้ว ถึงเวลาขายคืนฝรั่งราคาแพงๆ บ้างล่ะ