ตลาดหุ้นรอบนี้ฟื้นตัวค่อนข้างแข็งแกร่ง ขึ้นแล้วไม่ยอมลงง่ายๆ แม้จะมีข่าวร้ายปัจจัยลบกระทบ แต่ดัชนีหุ้นยังทะยานขึ้น จนเข้าไปใกล้ระดับ 1,400 จุดอีกครั้ง
แรงหนุนสำคัญของการฟื้นตัวของตลาดหุ้น เกิดจาก นักลงทุนต่างชาติซึ่งกลับเข้ามาซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง และซื้อสุทธิแล้วเกือบ 40,000 ล้านบาท ภายในช่วงเวลาเพียงสัปดาห์เศษ และถ้ายังคงไล่ซื้อหุ้นต่อไป ดัชนีหุ้นก็มีโอกาสไปได้ต่อ
แต่มีคำถามว่า ต่างชาติจะกลับตลาดหุ้นไทยจริงหรือไม่ หรือจะซื้อเพียงชั่วคราว และหาจังหวะขายทำกำไร ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนอีก
ตั้งแต่ปี 2560 ต่างชาติเทขายหุ้นมาตลอด โดยปี 2560 มียอดขายหุ้นสุทธิ 2.57 หมื่นล้านบาท ปี 2561 ขายหุ้นสุทธิ 2.87 แสนล้านบาท ปี 2562 ขายสุทธิ 4.52 หมื่นล้านบาท ปีนี้ขายหุ้นสุทธิ 2.69 แสนล้านบาท และเพิ่งจะกลับมาซื้อเมื่อต้นสัปดาห์ก่อน
เงินทุนที่ไหลกลับเข้าตลาดหุ้น ทำให้ค่าเงินบาทแข็งขึ้น และทำให้ตลาดหุ้นคึกคัก ดัชนีหุ้นปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่าดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะทรุดหนักก็ตาม
ไม่มีใครให้คำตอบได้ว่า ทำไมต่างชาติจึงขนเงินกลับมาไล่ช้อนซื้อหุ้น ซื้อหนักๆ และจะกลับเข้ามาลงทุนจริงหรือไม่
แต่ถ้าประเมินจากสถานการณ์โดยทั่วไป ต้องถือว่า ตลาดหุ้นไทยเริ่มมีข่าวดีบ้างแล้ว โดยการผลิตวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 มีความคืบหน้ามาก และภายในสิ้นปีนี้อาจมีการผลิตสู่ตลาด ซึ่งจะถือเป็น การสิ้นสุดวิกฤต "โควิด-19"
เศรษฐกิจโลกจะเริ่มฟื้นตัวขึ้น ขณะที่การท่องเที่ยวของไทยจะกลับมาคึกคักเร็วขึ้น โดยหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวพุ่งขึ้นไปล่วงหน้าแล้ว
ปัจจัยลบที่กดดันตลาดหุ้นอยู่มีเพียงสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของม็อบคณะราษฎรเท่านั้น
ส่วนราคาหุ้นปรับตัวลงไปซึมซับรับปัจจัยลบหมดแล้ว และถ้าเทียบกับหลายประเทศ ถือว่าฟื้นตัวช้า ระดับราคาจึงอาจจูงใจลงทุน ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ต่างชาติกลับมาไล่ช้อนซื้อหุ้น
รอบ 4 ปีที่ผ่านมา ต่างชาติขายหุ้น ขนเงินกลับไปกว่า 6 แสนล้านบาท การกลับมาซื้อเพียงประมาณ 40,000 ล้านบาท จึงถือเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับหุ้นที่เทขาย จึงมีความเป็นไปได้ว่า แรงซื้อของต่างชาติอาจไหลกลับต่อเนื่อง
หุ้นจึงมีโอกาสเปลี่ยนสู่แนวโน้มขาขึ้น
นักลงทุนที่มีหุ้นอย่เต็มพอร์ต ซื้อเก็บมาตลอด แบกของหนักมานาน ช่วงนี้ได้เวลาเลือกจังหวะขายทำกำไร
แต่นักลงทุนที่ยังพอร์ตว่างๆ อาจจะเกาะกระแสต่างชาติ ตามแห่ซื้อหุ้นตาม แม้ต้นทุนอาจจะสูงหน่อย แต่ช่องว่างทำกำไรยังเปิด เพราะฝรั่งอาจเพิ่งเริ่มต้นการกลับมา
หุ้นขนาดเล็กหุ้นขนาดกลาง โอกาสการทำกำไรอาจมีน้อยกว่าหุ้นขนาดใหญ่ เพราะฝรั่งที่กลับมาจะพุ่งเป้าไปที่หุ้นขนาดใหญ่มากกว่า และ หุ้นขนาดใหญ่ในช่วงนี้ก็ขึ้นกันมายกแผง แต่ก็ไม่แพงเกินไปที่จะเข้าไปเก็บหุ้น เพื่อตุนไว้ขายต่อให้ฝรั่ง
ถ้ามั่นใจว่าฝรั่งยังไม่ถอย แต่จะกลับมาช้อนซื้อหุ้นจริง ก็ต้อง ชิงซื้อหุ้น เพราะดัชนีหุ้นรอบนี้คงวิ่งทะลุ 1,400 จุด โดยไม่ยาก มีช่องทางหากำไรในตลาดหุ้นได้อยู่