"ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง" เพิ่มโอกาสรับงานใหม่ในและต่างประเทศ จ่อประมูลงานโครงสร้างพื้นฐานหนุน Backlog โตปีละไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท ล่าสุด เตรียมส่งมอบงานโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กคลองตรอน จ.อุตรดิตถ์ ให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บุ๊กรายได้ 4.71 ล้านบาทเข้า ไตรมาส 4/63 การันตีผลงานปีนี้ทำนิวไฮ รายได้โต 10-15%
นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านวิศวกรรมโยธาและธรณีเทคนิค เช่น งานอุโมงค์ โครงสร้างใต้ดิน เขื่อน โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ งานนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินด้วยวิธีดันท่อและเจาะดึงท่อเปิดเผยว่า บริษัทมีโอกาสขยายการรับงานใหม่ตามแผนพัฒนาโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งมีงานลงทุนอีกหลายโครงการที่อยู่ในแผนการเร่งลงทุนของภาครัฐ เช่น ระบบขนส่งทางราง งานอุโมงค์ถนน ระบบบริหารจัดการน้ำในประเทศ และงานเสริมเสถียรภาพทางลาด อีกทั้งบริษัทยังมีโอกาสเข้ารับงานในต่างประเทศเพิ่มเติม เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย โดยเฉพาะงานในประเทศ CLMV เช่น สปป.ลาว ประเทศพม่า และประเทศกัมพูชา เป็นต้น
โดยบริษัทเตรียมเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มปริมาณงานให้สูงขึ้น ซึ่งบริษัทพยายามรักษาปริมาณงานในมือ (Backlog) ต่อปีไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท ขณะที่มีงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐทยอยประกาศออกมาตั้งแต่ปลายปี 63 จนถึงต้นปี 64 เช่น โครงการงานรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย มูลค่าประมาณ 7.2 หมื่นล้านบาท โครงการกระทู้ป่าตอง จ.ภูเก็ต มูลค่าประมาณ 8 พันล้านบาท และโครงการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มูลค่าประมาณ 2-3 พันล้านบาท เป็นต้น โดยบริษัทมีความพร้อมเข้าประมูลงานดังกล่าว เมื่อมีการเปิดประมูลอย่างเป็นทางการ
ล่าสุด บริษัทเตรียมส่งมอบงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กคลองตรอน จ.อุตรดิตถ์ มูลค่าโครงการ 189.77 ล้านบาท ให้แก่เจ้าของโครงการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจรับงาน โดยเมื่อส่งมอบงานเป็นที่เรียบร้อยแล้วบริษัทจะรับรู้รายได้ที่เหลือจากโครงการดังกล่าว มูลค่า 4.71 ล้านบาท ในไตรมาส 4/63 นี้
ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ (Backlog) ที่รอรับรู้รายได้ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2563 อยู่ที่ 4,265 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้ในอีก 2 ปี (ปี 64-65) เช่น 1) โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนน จิระ จ.นครราชสีมา มูลค่าโครงการ 2,750 ล้านบาท มีความคืบหน้าโครงการ 72% 2) โครงการก่อสร้างและอาคารประกอบอุโมงค์ส่งน้ำ-แม่แตง จ.เชียงใหม่ มูลค่าโครงการ 2,880 ล้านบาท มีความคืบหน้าโครงการ 82%
3) โครงการบ่อพักและท่อร้อยสายร่วมกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง กรุงเทพมหานคร มูลค่าโครงการ 1,261 ล้านบาท มีความคืบหน้าโครงการ 40% 4) โครงการงานขยายถนนจาก 2 เลนเป็น 4 เลน ช่วงหนองหาน-พังโคน จ.สกลนคร มูลค่าโครงการ 755 ล้านบาท มีความคืบหน้าโครงการ 80% 5) โครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรัก จ.เลย มูลค่าโครงการ 1,446 ล้านบาท มีความคืบหน้าโครงการ 14%
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าปี 63 จะเป็นปีที่บริษัทเติบโตสูงสุดในรอบ 20 ปีตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา (New High) โดยบริษัทจะรักษาการเติบโตของรายได้อยู่ที่ระดับ 10-15% ต่อปี พร้อมรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 22-24% และอัตรากำไรสุทธิ 9-10%