เมเจอร์ฯ แจงผลประกอบการ 9 เดือนแรก รับรู้รายได้ 5,349 ล้านบาท เติบโต 15% พร้อมกำไรสุทธิ 110.91 ล้านบาท หลังไตรมาส 3 ทยอยโอนโครงการสร้างเสร็จใหม่ 2 โครงการต่อเนื่อง คาดโค้งสุดท้ายของปีเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว เดินหน้ากระจายพอร์ตธุรกิจรับมือ Post-COVID-19 พร้อมมั่นใจแคมเปญใหญ่ท้ายปี MAJOR SALE กระตุ้นยอดขายและยอดโอนได้ตามเป้า
น.ส.เพชรลดา พูลวรลักษณ์ กรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD กล่าวว่า ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจและผลกระทบจาก COVID-19 ผลการดำเนินงาน 9 เดือน ของบริษัทยังคงขับเคลื่อนไปได้อย่างต่อเนื่อง มีรายได้รวมทุกประเภทธุรกิจอยู่ที่ 5,349 ล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณ 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมียอดโอนกรรมสิทธิ์ในโครงการที่อยู่อาศัยที่เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาส 3/63 ได้แก่ โครงการมิวนิค สุขุมวิท 23 และโครงการมารุ ลาดพร้าว 15 รวมถึงโครงการที่ทยอยโอนอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน มีผลกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 110.91 ล้านบาท
“เราปรับตัวและปรับปรุงแผนการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนกลยุทธ์ของเราอย่างต่อเนื่องตลอดช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มุ่งเน้นการจัดการสินค้าคงค้าง หรือ Inventory อำนวยความสะดวกผู้บริโภคในการเข้าถึงโครงการที่อยู่อาศัย สรรค์สร้างและมอบความสุขที่ยั่งยืนให้แก่ลูกบ้าน พร้อมใส่ใจกับการรักษาระดับกระแสเงินสดให้ยังคงแข็งแกร่งรับมือทุกสถานการณ์ แม้ผลประกอบการที่ออกมาอาจไม่ได้หวือหวา แต่เราเชื่อว่าการเดินหน้าปรับตัวและจัดการ Inventory อย่างต่อเนื่อง จะเป็นพื้นฐานสำคัญของเราสู่การสร้างรายได้และดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว” น.ส.เพชรลดา กล่าว
สำหรับในไตรมาส 4 นี้ บริษัทจะดำเนินการใน 3 ส่วนหลักเพื่อให้ธุรกิจยังขับเคลื่อนและเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ 1.การวางรากฐานกระจายพอร์ตธุรกิจ (Business Diversification) สร้างรากฐานระยะยาว บริษัทจะเตรียมการพัฒนาสินค้าประเภทใหม่ๆ เซกเมนต์ใหม่ๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ขณะเดียวกัน จะทยอยก้าวเข้าสู่ธุรกิจที่ครบวงจรด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย
2.การพัฒนาที่อยู่อาศัยให้พร้อมตอบโจทย์ Post-COVID-19 บริษัทศึกษาพฤติกรรมเชิงลึกของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปสู่ New Normal ที่เริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมแล้วในช่วง Post-COVID-19 และพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ให้มีความพร้อมตอบโจทย์ดังกล่าว
3.การจัดแคมเปญกระตุ้นยอดขายส่งท้ายปี บริษัทจัดแคมเปญ MAJOR SALE ลดได้ลด ให้ได้ให้ กระตุ้นการตัดสินใจของผู้บริโภคในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผ่าน 10 โครงการพร้อมอยู่ทำเลศักยภาพ ภายใต้หลากหลายแบรนด์ เช่น มอลตัน, รีเฟล็คชั่น, เอ็ม โปรเจ็คท์, มาเอสโตร, เมทริส แม้จะเพิ่งจัดแคมเปญไปได้ไม่ถึงครึ่งเดือน แต่ก็เห็นการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค ตามสภาพเศรษฐกิจที่ค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ในไตรมาส 4/63 บริษัทจะมีโครงการคอนโดสร้างเสร็จพร้อมทยอยโอนเพิ่มเติม คือโครงการมารุ เอกมัย 2 มูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีโครงการแล้วเสร็จทั้งแนวสูงและแนวราบ เช่น โครงการ เมทริส พระราม 9-รามคำแหง โครงการเมทริส ลาดพร้าว โครงการมิวนิค สุขุมวิท 23 โครงการมารุ ลาดพร้าว มอลตัน ไพรเวท เรสซิเดนซ์ อารีย์ และมอลตัน ไพรเวท เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 31 ยังคงโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้ในปีนี้จะยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย