“เอเวอร์แลนด์” เน้นตลาดแนวราบ พ.ย.นี้ เล็งพรีเซล “ซิลเวอร์เลค พาร์ค เฟส 2” บ้านเดี่ยวแบรนด์ "มายโฮมซิลเวอร์เลค" และทาวน์โฮม แบรนด์ "เอเวอร์ ซิตี้” สุขสวัสดิ์ 30-พุทธบูชา เฟส 2 หลังตลาดแนวราบกลับมาได้รับความนิยมชัดเจน "สวิจักร์ โลจายะ" มั่นใจกระแสตอบรับดี หนุนยอดขาย-รายได้ปี 63 เติบโตตามเป้าหมาย
นายสวิจักร์ โลจายะ ประธานกรรมการ บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ EVER กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 63 บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญในตลาดเรียลดีมานด์ โดยเฉพาะโครงการแนวราบ เนื่องจากความต้องการอยู่อาศัยยังสามารถเติบโตได้ดี โดยในช่วงเดือน พ.ย.นี้ EVER เตรียมเปิดขายบ้านเดี่ยวโครงการซิลเวอร์เลคพาร์ค เฟส 2 โดยเปิดขายจำนวน 67 ยูนิต ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดพรีเซลในระหว่างวันที่ 14-15 พ.ย.นี้ ในราคาเริ่มต้น 5-9 ล้านบาท หลังจากเฟสแรกสร้างเสร็จ และสามารถปิดการขายได้ทั้งหมด จำนวน 78 ยูนิต
นอกจากนี้ ยังมีแผนจะเปิดโครงการทาวน์โฮม สุขสวัสดิ์ 30-พุทธบูชา เฟส 2 และในโครงการ เอเวอร์ซิตี้ ศรีนครินทร์-หนามแดง และโครงการเอเวอร์ซิตี้รามอินทรา-วงแหวนจตุโชติ บริษัทมีแผนเปิดขาย New Zone ซึ่งครบครันในแง่ของการใช้ประโยชน์และคุ้มค่ากับการเป็นเจ้าของในเดือน พ.ย.นี้เช่นกัน โดยคาดการเปิดพรีเซลโครงการใหม่นี้จะช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี
“บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการแนวราบภายใต้บ้านเดี่ยวแบรนด์ “มายโฮม ซิลเวอร์เลค” และทาวน์โฮม แบรนด์ “เอเวอร์ ซิตี้” โดยพบว่าสถานการณ์ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบนั้นกลับมาได้รับความนิยมในระดับที่ดี หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลง พฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคสู่ New Normal Lifestyle โดยเลือกซื้อที่อยู่อาศัยที่ให้ความสำคัญด้านพื้นที่ ความเป็นส่วนตัว สุขอนามัยและความปลอดภัยมากขึ้น รวมทั้งยังมองหาทำเลรอบนอกที่สามารถเข้าสู่ใจกลางเมืองที่มีการคมนาคมที่สะดวก รวมทั้งราคาคุ้มค่า ตอบรับความต้องการ และรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ของลูกค้าอีกด้วย”
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2563 ส่วนใหญ่รับรู้รายได้จากยอดโอนโครงการแนวสูง เดอะโพลิแทน รีฟ สนามบินน้ำ ซึ่งทยอยโอนเข้ามาเพิ่มจากที่มีการโอนมาตั้งแต่ต้นปี 2562 ซึ่งมีมูลค่าโครงการ 6,300 ล้านบาท และโครงการ ทาวน์โฮม แบรนด์ “เอเวอร์ซิตี้” ที่มียอดโอนอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อม กำหนดกลยุทธ์เพื่อรับมือกับความเสี่ยงหรือโอกาสของธุรกิจที่จะเกิดขึ้นเป็นอย่างดี
ทำให้มั่นใจว่าผลประกอบการยังมีแนวโน้มที่ดีโดยตั้งเป้ายอดรับรู้รายได้ปีนี้ไว้ที่ระดับ 3,000 ล้านบาท และที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการทำ Social online และการทำ Re-Marketing เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจ รวมทั้งการชำระเงินผ่าน E-payment ได้ เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ซึ่งง่ายต่อการตัดสินใจของลูกค้า