DHOUSE มองธุรกิจอสังหาฯ จ.มหาสารคาม มีโอกาสเติบโต ลุยเดินหน้าตามแผนธุรกิจหลังระดมทุน เตรียมเปิดโครงการ UPARK ไตรมาส 1/64 มูลค่ารวม 607.07 ล้านบาท เผยแผน 3-5 ปี ผุดคอนโด Lowrise และ Mixed-use พร้อมขยายโครงการตามหัวเมืองใหญ่ภาคอีสาน ตั้งเป้าเติบโตแตะ 1,000 ล้านบาท ขณะที่แนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก
นายพงศ์พจน์ เลิศรุ้งพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีเฮ้าส์พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ DHOUSE ผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดมหาสารคาม ประเภทที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์เพื่อขายหลากหลายรูปแบบ เช่น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ และอาคารพาณิชย์ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดมหาสารคามมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากการเป็นเมืองแห่งการศึกษาที่มีนักศึกษาและบุคลากรที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ทำให้เกิดการค้าขาย การลงทุนในภาคธุรกิจ ส่งผลให้เกิดความต้องการด้านอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน และเนื่องจากมหาสารคามเป็นจังหวัดที่ไม่ได้พึ่งพิงการท่องเที่ยว ส่งผลให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และยังมีกำลังซื้อ
โดยหลังระดมทุน บริษัทเตรียมพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ตามแผนธุรกิจและแผนการตลาด เริ่มจากโครงการ U Park โครงการบ้านจัดสรรคุณภาพในราคาที่เหมาะสม บนพื้นที่ 40 ไร่ ทำเลดีใกล้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จำนวนรวม 249 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 607.07 ล้านบาท คาดการณ์เปิดขายโครงการไตรมาส 1/64และโครงการแกรนด์บิซ 2 อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น จำนวน 40 ยูนิต บนพื้นที่ 3 ไร่ เดินทางสะดวกใกล้มหาวิทยาลัย ศูนย์การค้า และสถานที่ราชการต่างๆ มูลค่าโครงการ 127.60 ล้านบาท คาดการณ์เปิดขายโครงการไตรมาส 2/64
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาแผนธุรกิจ และความเป็นไปได้ของโครงการ เพื่อพัฒนาโครงการรูปแบบใหม่ประเภทคอนโด Lowriseและ Mixed-use เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ซึ่งทางบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาในการปล่อยเช่าครึ่งหนึ่ง เปิดขายครึ่งหนึ่ง เพื่อสร้างรายได้ประจำในอนาคต อีกทั้งบริษัทมีแผนที่จะขยายไปหัวเมืองใหญ่ในจังหวัดอื่นๆ ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงสุด 5 อันดับแรกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น ขอนแก่น อุบลราชธานี โคราช และอุดรธานี โดยตั้งเป้าการเติบโตระยะ 3-5 ปี มีรายได้แตะ 1,000 ล้านบาท
ด้านนายอรรถ เลิศรุ้งพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเฮ้าส์พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ DHOUSE เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีกว่าครึ่งปีแรก จากผลกระทบที่ประเทศไทยมีมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งหลังจากปลดล็อกดาวน์แล้วโครงการของ DHOUSE ยังคงได้รับความนิยม มีลูกค้าสนใจจองซื้ออย่างต่อเนื่อง
โดยในไตรมาส 3/63 มียอดโอนจำนวน 22 ยูนิต แบ่งเป็นโครงการเดอะแกรนด์เรสซิเดนซ์ 8 ยูนิต เดอะแกรนด์ คาเนล 9 ยูนิต และเดอะแกรนด์ บิซ 5 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวม 70.42 ล้านบาท และมียอดจองคงเหลือรอโอนจำนวน 18 หลังหลัง แบ่งเป็นโครงการโครงการเดอะแกรนด์เรสซิเดนซ์ 2 ยูนิต เดอะแกรนด์ คาเนล 2 ยูนิต เดอะแกรนด์ บิซ 5 ยูนิต และพฤกภิรมย์ 9 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 58.05 ล้านบาท และในช่วงไตรมาส 4 คาดว่าจะเริ่มโอนโครงการพฤกภิรมย์ ได้ในช่วงปลายเดือน พ.ย. หรือต้นเดือน ธ.ค. และเชื่อว่ามียอดจองและยอดโอนทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง