ความคาดหมายว่า นายโจ ไบเดน จะชนะนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไป ทำให้นักลงทุนทั้งโลก กระโจนเข้าตลาดหุ้น ไล่ซื้อหุ้นกันฝุ่นตลบ รวมทั้งตลาดหุ้นไทย ซึ่งฟื้นคืนชีพสู่ความคึกคักเต็มรูปแบบอีกครั้ง
นานๆ ทีจะได้เห็นตลาดหุ้นเขียวขจี ดัชนีพุ่งทะยานกว่า 40 จุด โดยทะลุขึ้นไปยืนเหนือ 1,250 จุดอีกครั้ง ภายใต้ความหวังว่า แนวโน้มตลาดหุ้นจะสดใส เศรษฐกิจโลกจะกระเตื้องขึ้นจากนโยบายของผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่
หุ้นกลุ่มหลักๆ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดีดตัวขึ้นทิศทางเดียวกัน แต่กลุ่มที่ขยับขึ้นแรงยกแผงอย่างโดดเด่น คือ หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ เพราะโดยเฉลี่ยขยับขึ้นในระดับ 10%
หุ้นบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ปิดที่ 45.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 8.33%
หุ้นบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ปิดที่ 43.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 8.75%
บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO ปิดที่ 184 บาท เพิ่มขึ้น 14.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 8.55%
บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอ์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ปิดที่ 60 บาท เพิ่มขึ้น 6.75 บาท หรือเพิ่มขึ้น 12.68%
บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ปิดที่ 31.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท หรือเพิ่มขึ้น 7.76%
และหุ้นบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH ปิดที่ 51.25 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 7.33%
หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ตกอยู่นอกจอเรดาร์ของนักลงทุนระยะหนึ่งแล้ว ราคาซึมลงในกรอบแคบ วอลุ่มการซื้อขายเบาบาง จนนักวิเคราะห์หลักทรัพย์บางสำนักเริ่มให้คำแนะนำลงทุน เพราะราคาปรับตัวลงจนปัจจัยพื้นฐานรองรับแข็งแกร่งขึ้น
หลังจากนักวิเคราะห์เริ่มแนะนำให้ทยอยซื้อเก็บได้ไม่นาน หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าก็ทะยานขึ้น โดยได้รับอานิสงส์จากภาวะตลาดหุ้นที่กลับสู่ความคึกคัก ซึ่งเป็นผลพวงจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
สัญญาณการกลับมารอบใหม่ของหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าเกิดขึ้นแล้ว โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นักลงทุนที่ทนถือหุ้นกลุ่มนี้ได้ตักตวงความสุขกันเต็มอิ่ม คุ้มค่ากับการรอคอย พร้อมความหวังว่า ราคาหุ้นจะปรับเป็นช่วงขาขึ้น
แต่จะมีแรงส่งหรือไม่คงขึ้นอยู่กับภาวะตลาด โดยหากตลาดหุ้นยังคึกคักต่อ หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าก็จะเกาะติดดีดตัวตาม เพราะก่อนหน้าลงมาลึก ซึมซับรับข่าวร้ายหมดแล้ว
การที่หุ้นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่เด้งขึ้นแรงนั้น เนื่องจากนักลงทุน โดยเฉพาะกองทุนในประเทศอาจเฝ้ารอจังหวะเข้ามาช้อนเก็บอยู่แล้ว เมื่อมีแรงซื้อจุดพลุนำ จึงเกิดการตามแห่ ไล่ซื้อกัน จนราคาพุ่งทะยานเหนือกลุ่มอื่นๆ
ได้เวลาที่หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าจะกลับมาสร้างสีสันการลงทุน กระตุ้นบรรยากาศการซื้อขาย และขับเคลื่อนดัชนีหุ้นแล้ว
นักลงทุนที่ไม่มีหุ้นอยู่ในมือ ไม่ได้ช้อนเก็บไว้ก่อนหน้า อาจจะเสียโอกาส และพลาดตกรถไปแล้ว ส่วนคนที่มีหุ้นติดมืออยู่ ตอนนี้คงมีความสุขกับความฝัน หุ้นกลุ่มไฟฟ้ากำลังฟื้น ราคาหุ้นที่ดีดแรงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา อาจเป็นจุดเริ่มต้นของขาขึ้นรอบใหญ่เท่านั้น
ใครที่ติดหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าไว้ในราคาที่ไม่สูงเกินไป รอบนี้โอกาสหลุด ส่วนใครที่ช้อนซื้อไว้ในระดับราคาก้นเหว มีโอกาสทำกำไรงามๆ
ถ้าตลาดหุ้นไม่เกิดการพลิกผัน ไม่มีข่าวร้ายแทรกซ้อน บรรยากาศซื้อขายยังคึกคักต่อเนื่อง หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าคงจะกลับมาโดดเด่นน่าจับตามอง