xs
xsm
sm
md
lg

เดลต้าฯ เล็งเพิ่มฟรีโฟลท หลังหุ้นหลุด SET50-SET100

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



DELTA ยอมรับอยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางเพิ่มสภาพคล่องหุ้นในตลาด หลังหุ้นหลุดคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 โยนบอร์ดพิจารณา ขณะคาดงบ Q4/63 ผลงานดีต่อเนื่อง รับดีมานด์ดาต้าเซ็นเตอร์-รถยนต์ EV ระบุยังไม่ฟันธงแตกพาร์หรือไม่ ขณะยันยังไม่มีแผนซื้อกิจการ ขอตุนเงินสดในมือ 300 ล้านดอลล์ ด้าน โบรกเกอร์คงประมาณการกำไรปีนี้ ให้ราคาเหมาะสมที่ 197 บาท

น.ส.กุลวดี กวยาวงศ์ นักลงทุนสัมพันธ์ บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทกำลังดูแนวทางการแก้ไขเรื่องสภาพคล่องของหุ้นที่อยู่ในตลาด (ฟรีโฟลท) หลังถูกปลดจากการคำนวณในดัชนี SET50 และ SET100 ซึ่งเรื่องนี้จะต้องนำมาหารือกับคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) อาจมีการพิจารณาหลายแนวทาง ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการแตกมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หรือไม่ก็ได้

"กระแสข่าวลือเรื่องการแตกพาร์ มองว่าเป็นผลมาจากการที่ราคาหุ้น DELTA ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงปีนี้ แต่เชื่อว่าบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานรองรับอย่างดี ซึ่งจะแตกพาร์หรือไม่ต้องพิจารณาให้เหมาะสม โดยเรื่องนี้อาจต้องให้บอร์ดเป็นผู้พิจารณาและเสนอเข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้นในการตัดสินใจ ยังไม่สามารถพูดได้อย่างชัดเจน เพราะต้องรอดูต่อไปในการประชุมผู้ถือหุ้นช่วงปีหน้า" น.ส.กุลวดี กล่าว

มั่นใจผลงานโค้งสุดท้ายโตต่อเนื่องถึงปีหน้า

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/36 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องยาวไปจนถึงปีหน้า เนื่องจากในช่วงครึ่งหลังของปีนี้มีความต้องการสินค้าเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูล (data center) และรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของบริษัทปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับบริษัทยังคงมุ่งเน้นการขยายสินค้ารูปแบบ OEM และยอดขายสินค้าที่มีโซลูชันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้กำไรของบริษัทปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย

โดยได้วางแผนด้านงบการลงทุนในการขยายกำลังการผลิตและการวิจัยและพัฒนา (R&D) สินค้าที่ดีขึ้น และควบคุมต้นทุนการลงทุนให้สดคล้องต่อการเติบโตของธุรกิจที่เข้ามาตอนนี้ แม้การดำเนินธุรกิจจะยังเจอกับสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังรุนแรง แต่บริษัทเรียนรู้วิธีรับมือและการวางแผนให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้

ยันยังไม่มีแผนการซื้อกิจการเพิ่ม

นอกจากนี้ บริษัทยังไม่มีแผนการซื้อกิจการ (M&A) เพิ่มเติมในช่วงนี้ เนื่องจากมองว่าในสภาวะแบบนี้การตัดสินใจเข้าลงทุนคงทำได้ยาก อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีกระแสเงินสดในมือกว่า 300 ล้านดอลลาร์ และมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่เข้ามาแต่ละปีอีก 150-200 ล้านบาท มองว่าเพียงพอในการขยายการลงทุนหรือซื้อกิจการในอนาคต

หยวนต้า คงประมาณการกำไร-ราคาเหมาะสมที่ 197 บาท

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า กำไรปกติ 9Q63 อยู่ที่ 5.2 พันล้านบาท คิดเป็น 73% ของประมาณการกำไรทั้งปี 2563 ที่ 7.1 พันล้านบาท (+134% YoY) ขณะที่ 4Q63 คาดกำไรปกติชะลอตัวลง QoQ แต่ยังอยู่ในระดับสูงที่ +/-2 พันล้านบาท ทำให้เราคงประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2563

คงคาดการณ์กำไรปกติปี 2564 ที่ 8.2 พันล้านบาท (+15.6% YoY) หนุนจากการเติบโตของสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ EV Car แต่การเติบโตจะลดความร้อนแรงลงจากฐานที่สูงในปี 2563

คงคำแนะนำ “TRADING” ที่ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2564 ที่ 197.00 บาทต่อหุ้น ราคาหุ้น DELTA ปรับลดลงจากระดับ 200 บาท และเริ่มกลับมามี Upside ราว 9.7% อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายอิง PER64 ที่ 27.3x และให้คาดการณ์ปันผลปี 2564 ที่ 2.4% ไม่ได้อยู่ใน Zone ถูกแล้ว ดังนั้น การลงทุนที่ระดับปัจจุบันต้องเป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อหวังผลกับศักยภาพเติบโตในตลาด EV Car ตลาด Home automation และตลาด 5G ที่จะเติบโตได้อีกมากในอนาคต


กำลังโหลดความคิดเห็น