ปีนี้กำลังจะเกิดประวัติศาสตร์ใหม่ นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นมากสุด โดยยอดขายหุ้นสุทธิสะสมตั้งแต่ต้นปีจนสิ้นสุดวันที่ 4 พฤศจิกายน มีจำนวนทั้งสิ้น 304,424.76 ล้านบาท ลบสถิติปี 2561 ที่ต่างชาติขายหุ้นสุทธิรวมทั้งสิ้น 2.84 แสนล้านบาท
การขายหุ้นของต่างชาติดำเนินมาตั้งแต่ต้นปี โดยขายทุกสถานการณ์ ไม่ว่าการเมืองภายในประเทศจะเงียบสงบหรือเกิดความวุ่นวาย ไม่ว่าตลาดหุ้นจะมีความคึกคักหรือซบเซา จะเกิดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไม่ หรือผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเป็นอย่างไร
ต่างชาติมีมุมมองตลาดหุ้นไทยในแง่ลบมากๆ จึงปักหลักถล่มหุ้น และไม่หันหลังกลับมาซื้อ ขายตั้งแต่ดัชนีหุ้นยืนอยู่ระดับ 1,600 จุด แม้จะหลุดลงต่ำกว่า 1,200 จุดก็ยังไม่หยุดขาย
แต่การลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ถือเป็นการวางกลยุทธ์ที่ถูก เพราะขายแล้วหุ้นลง จึงเป็นการขายหุ้นในราคาที่ดี
แม้นักลงทุนในประเทศจะช่วยกันซื้อ โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อย ซึ่งปีนี้กลายเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ มียอดซื้อหุ้นสุทธิรวมทั้งสิ้น 240,819 ล้านบาท แต่ไม่สามารถต้านแรงขายของต่างชาติได้ ดัชนีหุ้นจึงไหลลงมาต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม การที่นักลงทุนในประเทศทั้ง 3 กลุ่ม ประกอบด้วย นักลงทุนสถาบัน ซึ่งมีกองทุนรวมเป็นหลัก พอร์ตโบรกเกอร์และนักลงทุนรายย่อย รวมพลังกันซื้อหุ้น มีส่วนทำให้หุ้นไม่ทรุดหนักเกินไปนัก แม้จะมีวิกฤต “โควิด-19” กระหน่ำก็ตาม
การที่ต่างชาติถล่มขายกว่า 3 แสนล้านบาท น่าจะฉุดให้ตลาดหุ้นดิ่งลงเหวลึก จนไม่มีโอกาสผงกหัว แต่ดัชนีหุ้นกลับดีดขึ้นมายืนเหนือ 1,200 จุดได้
ช่วงเวลา 2 เดือนสุดท้ายปี 2563 ไม่มีสัญญาณว่าต่างชาติจะกลับมา ส่วนนักลงทุนก็ไม่หวังว่าต่างชาติจะพลิกกลยุทธ์ กลับมาลุยช้อนหุ้นช่วงปลายปี และไม่ให้น้ำหนักกับการขายของต่างชาติแล้ว
แต่เชื่อว่าถ้ามีปัจจัยบวกเข้ามา ตลาดหุ้นก็สามารถฟื้นขึ้นมาได้ เพราะนักลงทุนในประเทศทั้ง 3 กลุ่ม พร้อมจะซื้อหุ้น ถ้ามีสัญญาณที่ดี
ปกตินักลงทุนต่างชาติเมื่อขายหุ้นออก ทิ้งระยะไม่นานนักจะกลับมาซื้อคืน แต่การขายหุ้นออกรอบนี้แตกต่างจากรอบก่อนๆ เพราะเป็นการขายมาราธอนต่อเนื่องมาประมาณ 5 ปี และยังไม่กลับมาซื้อคืน
ไม่อาจประเมินได้ว่า เมื่อไหร่จะขนเงินกลับมาช้อนหุ้นคืน แต่ การกลับมาของต่างชาติ จะมีนัยสำคัญต่อทิศทางตลาดหุ้น และมีผลจิตวิทยากระตุ้นการลงทุน
เพราะการกลับมาของต่างชาติ หมายถึงการปรับมุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดหุ้น และเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า ระดับราคาหุ้นอาจต่ำจนจูงใจให้ช้อนซื้อคืน
ดังนั้น นักลงทุนคงต้องเฝ้าดูการกลับมาของต่างชาติไว้ ถ้าเห็นสัญญาณการกลับมาเมื่อไหร่ ต้องรีบชิงช้อนหุ้นเก็บกักตุน เพื่อดักรอรับต่างชาติ
ขาขึ้นรอบใหญ่คงจะเกิดขึ้นทันที เมื่อนักลงทุนต่างชาติขนเงินกับมา
นักลงทุนรายย่อยซึ่งเจ็บระบมจากการช้อนซื้อหุ้นสวนแรงขายต่างชาติปีนี้ มีโอกาสถอนทุนคืนได้ ถ้าดักทางต่างชาติถูก
เห็นสัญญาณฝรั่งกลับมา ต้องชิงซื้อหุ้นเก็บตุนไว้ทันที เพราะมีโอกาสฟันกำไรงามๆ จากหุ้นที่จะพุ่งทะยานตามแรงซื้อฝรั่ง