หุ้นไทยปิดบวก 1.11 จุด แกว่งผันผวนเกาะติดผลเลือกตั้งสหรัฐฯ ยังไม่แน่นอน ส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนขายทำกำไรออกมาก่อน สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ ตลาดยังต้องขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยกรณีที่ดีที่สุดผลการเลือกตั้งออกมาชัดเจน
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวน ระหว่างรอความชัดเจนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนักลงทุนบางส่วนขายทำกำไรออกมาก่อน เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่มีความชัดเจน ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นไทยที่ดีดตัวขึ้นช่วง 2 วันก่อนหน้านี้ ตอบรับเชิงบวกจากคาดการณ์ว่านายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี จากพรรคเดโมแครตจะคว้าชัยชนะ และพรรคเดโมแครตจะสามารถครองเสียงข้างมากทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะทำให้สามารถผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม การนับคะแนนล่าสุดกว่า 85% ปรากฏว่า นายไบเดน และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 จากพรรครีพับลิกัน มีคะแนนสูสีกันมาก โดยเฉพาะในรัฐ swing state ทำให้ตลาดเริ่มไม่มั่นใจ ประกอบกับนายทรัมป์ แถลงอ้างชัยชนะแม้ว่าการนับคะแนนยังไม่แล้วเสร็จ พร้อมทั้งประกาศว่าจะไปศาลสูงสุดเพื่อยุติการนับคะแนนเพราะเชื่อว่าถูกโกง โดยความไม่ชัดเจนดังกล่าวทำให้ตลาดหุ้นยุโรปเปิดช่วงบ่ายนี้ร่วงลงกว่า 1%
ส่วนปัจจัยภายในประเทศยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก โดยเฉพาะประเด็นทางการเมือง ส่วนการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/63 ของบริษัทจดทะเบียนทั้ง บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) และ บมจ.ไดนาสตี้เซรามิค (DCC) ที่ออกมาดี ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาบ้าง
สำหรับแนวโน้มการซื้อขายวันพรุ่งนี้ (5 พ.ย.) ยังต้องขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยกรณีที่ดีที่สุดผลการเลือกตั้งออกมาชัดเจน ไม่ว่านายไบเดน หรือนายทรัมป์ เป็นผู้ชนะ และได้คะแนนเสียงข้างมากทั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร ก็จะสามารถผลักดันนโยบายต่างๆ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจให้ออกมาได้อย่างราบรื่นไม่เหมือนปัจจุบัน แต่ในทางตรงข้ามหากผลการเลือกตั้งไม่มีความชัดเจน และมีแนวโน้มที่อาจจะต้องไปสู่ศาล ก็อาจจะทำให้ภาพตลาดไม่ดีนัก