xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดตราสารหนี้ไตรมาส 3 ขยายตัวร้อยละ 5.09 ต่างชาติกลับมาซื้อ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ThaiBMA เผยการระดมทุนและลงทุนในตลาดตราสารหนี้ไตรมาส 3 ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขยายตัวร้อยละ 5.09 โดยต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 39,444 ล้านบาท

นายธาดา พฤฒิธาดา กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผยถึงภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยช่วง 9 เดือนแรกนี้ โดยระบุว่า ตลาดตราสารหนี้ไทยโดยรวมยังขยายตัวได้ดีที่ร้อยละ 5.09 มีมูลค่าคงค้างเพิ่มขึ้นเป็น 14.2 ล้านล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของพันธบัตรรัฐบาล แม้ว่าตราสารหนี้ภาคเอกชนจะมีมูลค่าคงค้างลดลง เนื่องจากการลดลงของการออกหุ้นกู้ระยะสั้นของกลุ่มธนาคารจากสภาพคล่องในระบบธนาคารที่เพิ่มมากขึ้น

ส่วนการออกตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาว แม้ว่าใน 9 เดือนแรกนี้จะต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว แต่เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้นไตรมาส 3 โดยพบว่า กลุ่มพลังงานมีการออกเพิ่มขึ้นมากที่สุด ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอด 4 ปีที่ผ่านมา จากความต้องการลงทุนมากขึ้นในธุรกิจพลังงานทางเลือก ขณะที่กลุ่มธนาคารพาณิชย์มีการออกลดลงมากที่สุด เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว

ด้านกระแสเงินลงทุนต่างชาติในตลาดตราสารหนี้ไทย (Fund flow) แม้ว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับมาซื้อสุทธิตราสารหนี้ภาครัฐระยะยาวอย่างต่อเนื่องไตรมาส 3 แต่ในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ พบว่า ยังเป็นการขายสุทธิรวม 71,299 ล้านบาท โดยเป็นการขายสุทธิทั้งตราสารหนี้ระยะยาว 7,260 ล้านบาท และตราสารหนี้ระยะสั้น 64,039 ล้านบาท ทําให้ ณ สิ้นไตรมาส 3 นี้ นักลงทุนต่างชาติถือครองตราสารหนี้ไทยรวมลดลงจาก 916,816 ล้านบาท ณ สิ้นปีที่แล้วมาอยู่ที่ 848,767 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 6.0 ของมูลค่าคงค้างตราสารหนี้ไทย

ขณะที่แนวโน้มการออก ESG bond (ESG: Environmental, Social and Corporate Governance) กลับเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในช่วง 9 เดือนแรกนี้มีการออก ESG bond ถึง 49,800 ล้านบาท สูงกว่าการออกในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเกือบ 4 เท่า และเป็นครั้งแรกที่หน่วยงานภาครัฐออก ESG bond กว่า 42,800 ล้านบาท ได้แก่ กระทรวงการคลังออก Sustainability bond มูลค่า 30,000 ล้านบาท เพื่อนําไปใช้ขยายเส้นทางรถไฟฟ้าและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ออก Green bond มูลค่า 6,000 ล้านบาท และการเคหะแห่งชาติออก Social bond มูลค่า 6,800 ล้านบาท ส่วนบริษัทเอกชนที่ออกปีนี้ ได้แก่ บมจ.ปตท. และ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ ออก Green bond มูลค่า 2,000 และ 5,000 ล้านบาท ตามลําดับ

สําหรับตลาดตราสารหนี้ไทยในช่วงที่เหลือของปี 2563 นายธาดา คาดว่าบริษัทเอกชนยังคงมีความต้องการระดมทุนผ่านการออกตราสารหนี้ระยะยาวเพื่อเสริมสภาพคล่อง ส่วนทิศทางอัตราดอกเบี้ยคาดว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายยังคงอยู่ที่ร้อยละ 0.5 ไปจนกว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระดับโลกจะคลี่คลาย และมีการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกรวมถึงเศรษฐกิจไทยอย่างชัดเจน ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะกลางจะปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มาก แม้ว่าจะมีความต้องการระดมทุนของรัฐบาลจํานวนมาก เนื่องจากรัฐบาลจะใช้เครื่องมือการระดมทุนที่หลากหลาย


กำลังโหลดความคิดเห็น