โปรดเกล้าฯ "อาคม เติมพิทยาไพสิฐ" เป็น รมว.คลังคนใหม่ ตั้งแต่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป โบรกเกอร์ชี้เป็นสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจ ตลาดหุ้น เชื่อสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน เร่งผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
วันนี้ (5 ต.ค.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรี ใจความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 9 มิถุนายน พุทธศักราช 2562 แล้ว และแต่งตั้งรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดิน ตามประกาศลงวันที่ 10 กรกฎาคม พุทธศักราช 2562และประกาศครั้งสุดท้ายลงวันที่ 5 สิงหาคม พุทธศักราช 2563 นั้น
บัดนี้ นายกรัฐมนตรีได้กราบบังคมทูลว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ลาออกจากตำแหน่ง สมควรแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแทนตำแหน่งที่ว่าง เพื่อความเหมาะสมและบังเกิดประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 1 ตุลาคม พุทธศักราช 2563 เป็นปีที่ 5 ในรัชกาลปัจจุบัน
โบรกฯ เชื่อได้ รมว.คลังคนใหม่ หนุน ศก.-ตลาดหุ้น
ด้านฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส (ASPS) เปิดเผยว่า เป็นสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย เนื่องจากเมื่อมีขุนคลังผลักเศรษฐกิจแล้วเชื่อว่าน่าจะช่วยให้การผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ๆ ทำได้มีประสิทธิภาพ และเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนเอกชนและต่างชาติ ASPS ให้น้ำหนักมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ดังนี้
มาตรการกระตุ้นการบริโภค : ให้น้ำหนักการพิจารณามาตรการกระตุ้นการบริโภคของ ศบศ. ในวันที่ 7 ต.ค.63 ซึ่งคาดว่าครั้งนี้จะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้มีรายได้ระดับกลาง-บน เช่นช้อปช่วยชาติ หรือชิปช้อปใช้ และถ้า ศบศ. เห็นชอบมาตรการดังกล่าวจริง เชื่อว่าจะช่วยสร้าง Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีก เช่น CRC, CPN, SPVI และ CPALL
การผลักดันโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ : เนื่องจาก นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ASPS จึงเชื่อว่า รัฐมนตรีคลังคนใหม่น่าจะเดินหน้าผลักดันโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐเป็นลำดับถัดไป โดย ASPS คาดว่าโครงการลงทุนที่สามารถประมูลได้ทันภายปีนี้คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก (ศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์) วงเงิน 1.27 แสนล้านบาท
ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างประกวดราคา และมีกำหนดยื่นซองประมูลช่วงต้นเดือน พ.ย.2563 ก่อนที่จะเซ็นสัญญา และเริ่มก่อสร้างในช่วง 1Q64 ส่วนโครงการอื่นๆ เช่น รถไฟทางคู่เฟส 2 รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) รถไฟฟ้าสายสีแดงส่วนต่อขยาย (บางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน) น่าจะเห็นการเปิดประมูลในปี 2564 กระแสความคืบหน้าของการลงทุนภาครัฐที่ชัดเจนขึ้น ประเมินเป็น Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เลือก CK เป็น Top Pick ของกลุ่ม