บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ เผยปีนี้พลิกมีกำไร หลังปริมาณงานประมูลมีต่อเนื่อง ล่าสุด ยื่นประมูลงานใหม่ 55,000 ลบ. หวังได้งาน 5-10% ลุ้นโครงการเอสเพน คอนโด เฟส C ก่อสร้างปลายปีนี้ ขณะที่โบรกเกอร์ มองหุ้นรับเหมาฯ ยังเจอข่าวร้ายกดดัน หลังงบปี 64 ล่าช้า รถไฟฟ้าสายสีส้มสะดุด แต่มองปีหน้าโครงการรัฐฯจะกลับมาเดินหน้า หลังรถไฟทางคู่ 2 เส้น ไฮสปีดเทรน 3 สนามบินยังเดินหน้า ยก CK - SEAFCO เด่น
นายปสันน สวัสดิ์บุรี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR เปิดเผยว่า บริษัทคาดปีนี้จะสามารถพลิกมีกำไรสุทธิได้ โดยในครึ่งแรกของปี 63 มีกำไรสุทธิแล้ว 47 ล้านบาท หลังจากที่ในปี 62 มีผลขาดทุนสุทธิ 515 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงนี้มีปริมาณงานออกมา ให้ประมูลงานอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ไม่มีการแข่งขันทางด้านราคา และส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 6-9%
ขณะเดียวกัน คาดรายได้ปี 63 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากขณะนี้มีมูลค่างานในมือ 36,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ 25% และอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่ 55,000 ล้านบาท โดยคาดหวังจะได้งาน 5-10% ของมูลค่างานที่ประมูล ซึ่งงานที่ประมูลจะเป็นงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ
นอกจากนี้ ในปี 63 บริษัทคาดจะมีรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 420-450 ล้านบาท โดยขณะนี้มียอดขายที่รอโอน จำนวน 360 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย ได้แก่ บารานีพาร์ค ร่มเกล้า โดยขายไปแล้ว 36% โครงการบารานี เรสซิเดนซ์ รังสิต คลอง 3 มียอดขายแล้ว 75% และมีการโอนไปแล้ว 65% ขณะที่โครงการเอสเพน คอนโด เฟส C จะสร้างแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ หรือต้นปีหน้า
ด้านโบรกฯ มองปีหน้าหุ้นรับเหมาฯ ฟื้น ได้โครงการรัฐฯหนุน
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผ่านบทวิเคราะห์รายวัน ถึงหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างในขณะนี้ว่า มีหลายปัจจัยลบเข้ามากดดัน ทั้ง พ.ร.บ.งบประมาณปี 64 (ต.ค.63-ก.ย.64) ที่ล่าช้า และปัญหาการเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีส้มตะวันตก แต่เชื่อว่าทั้ง 2 ปัจจัยกดดันระยะสั้น เนื่องจากในปี 64 โครงการภาครัฐจะกลับมาเป็นปกติ
ทั้งนี้ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 64 มีการคาดการณ์ว่าจะล่าช้าอย่างน้อย 1 ไตรมาส แต่อย่างไรก็ตาม งบลงทุนจากโครงการที่ดำเนินอยู่ยังคงเบิกจ่ายต่อไปได้อีกอย่างน้อย 2-3 เดือน โดยการเปิดประมูลโครงการภาครัฐใหม่ๆ ยังคงเดินหน้าไปถึงขั้นของการออก TOR ควบคู่ไปกับกระบวนการอนุมัติ พ.ร.บ.งบประมาณปี 64
โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยคาดว่าจะออกร่าง TOR โครงการรถไฟทางคู่ 2 เส้นทาง (เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และบ้านไผ่-นครพนม มูลค่างานโยธรารวม 1.286 แสนล้านบาท) ได้ในเดือน ต.ค.63 และออก TOR ฉบับที่เป็นทางการได้ในเดือน ธ.ค.63
ส่วนการเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีส้มจะเดินหน้าไปตามกำหนดเดิมในฐานะที่เป็นโครงการที่ใช้แนวทาง PPP net cost ทั้งนี้ รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกคาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในปี 67 แต่ต้องรอฟังผลการวินิจฉัยของศาลในกรณีที่ BTS ยื่นฟ้องศาลปกครองกลางเรื่องการเปลี่ยนเงื่อนไขใน TOR หลังจากที่ได้ซื้อซองประมูลไปแล้ว ซึ่งเชื่อว่าศาลปกครองกลางจะไม่คุ้มครองชั่วคราวในกรณีนี้ เนื่องจากคณะกรรมการ PPP มีสิทธิที่จะปรับเงื่อนไขการประเมินผลการประมูลได้ โดยกำหนดวันยื่นซองประมูลน่าจะยังคงเป็นวันที่ 9 พ.ย.63 เหมือนเดิม และน่าจะประกาศชื่อผู้ชนะใน Q1/64
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมตั้งเป้าจะส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างทั้งหมดของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินได้ภายในเดือน มี.ค.64 และออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงานได้ ซึ่งจะถือเป็นข่าวดีสำหรับธุรกิจเสาเข็มและฐานราก โดยเราคาดว่างานเสาเข็มและฐานราก (ประเมินมูลค่า backlog ไว้ที่ 8 พันล้านบาท-1 หมื่นล้านบาท) จะเริ่มย้ายเครื่องจักรเข้ามาในพื้นที่ก่อสร้างได้ใน Q2/64
ทั้งนี้ ให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ Neutral ถึงแม้ว่าภาวะตลาดของกลุ่มรับเหมาจะเป็นลบจากความล่าช้าของ พ.ร.บ งบประมาณปี 2564 และการเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีส้มตะวันตก แต่เชื่อว่าปี 64 จะเป็นปีทองของการเปิดประมูลโครงการใหม่ และการเซ็นสัญญา backlog ใหม่ สำหรับผู้เหมาหลักชอบ CK และ SEAFCO ในฐานะผู้รับเหมางานเสาเข็มและฐานราก