xs
xsm
sm
md
lg

ไต้หวันจ่อย้ายฐานเข้าไทย แองเจิลฯ หนุนวีซ่าพิเศษจูงใจโอนคอนโดฯ หมื่นล.

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายไซม่อน ลี
"แองเจิลฯ" โบรกเกอร์โควตาต่างชาติรายใหญ่ในไทย หนุนรัฐให้สิทธิวีซ่ายาว 9 เดือน จูงใจให้ลูกค้าต่างชาติรีบกลับมาโอนห้องชุดเร็วขึ้น แนะรัฐไฟเขียวพาสปอร์ตยาวแลกกับการลงทุนซื้อคอนโดฯ มูลค่า 5-10 ล้านบาท พร้อมประสานอุตฯ ไต้หวันจับคู่กับบิ๊กนิคมฯ ย้ายฐานการผลิตมาไทย เผยโบรกเกอร์ทั่วโลกเจอพิษโควิด-19 สูญหายไปกว่า 50%

นายไซม่อน ลี (Simon Lee) ประธานกรรมการบริษัทแองเจิล เรียลเอสเตท คอนซัลแทนซี่ จำกัด (Angel Real Estate Consultancy Co.,Ltd.หรือ ARE) บริษัทที่ปรึกษาด้านการตลาดและขายชั้นนำของประเทศไทย โดยเฉพาะโควตาต่างประเทศ (Foreign Quota) โบรกเกอร์รายใหญ่ที่ทำตลาดในภูมิภาคเอเชีย กล่าวสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยให้สิทธิต่างชาติในการเข้ามาพำนักประเทศไทยนานขึ้น ซึ่งล่าสุด คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติในเรื่องการถือครองวีซ่าพิเศษเที่ยวในประเทศไทยได้นาน 9 เดือน ตรงนี้จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าต่างชาติที่ได้วางดาวน์โครงการคอนโดมิเนียมก่อนหน้านี้ ตัดสินใจรีบมาดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ในห้องชุดให้แล้วเสร็จ หลังจากช่วงปิดประเทศ (ล็อกดาวน์) ไม่สามารถทำธุรกรรมดังกล่าวได้

"กลุ่มลูกค้าต่างชาติที่ต้องการได้พาสปอร์ต เป็นตลาดที่ใหญ่มาก อย่างเช่นประเทศอังกฤษ จะให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้มาลงทุนหรือซื้ออสังหาฯ วงเงิน 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประเทศตุรกี ผู้ที่เข้ามาลงทุนตั้งแต่ 250,000 เหรียญสหรัฐ จะได้สัญชาติตุรกีและถือพาสปอร์ตเพื่อเดินทางไปสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศอียูได้ ในส่วนของประเทศไทย หากกำหนดเงินลงทุน 5 ถึง 10 ล้านบาท มีระยะเวลาการถือพาสปอร์ตได้ 5 ถึง 10 ปี จะกระตุ้นให้ตลาดคอนโดฯ ได้รับความนิยมและขยายตัวมากขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ต้องรอความชัดเจนสิทธิประโยชน์จากรัฐบาล เพื่อนำมาวิเคราะห์ถึงผลที่มีต่อลูกค้าต่างชาติได้ แต่ความเห็นส่วนตัวแล้ว มองมาตรการของภาครัฐเป็นเชิงบวก"

40 รง.ใหญ่จากไต้หวันพร้อมลงทุนในไทยมูลค่าแสนล.

สำหรับความคืบหน้าในธุรกิจใหม่ ได้ปรับกลยุทธ์มาเจาะกลุ่มฐานลูกค้าอุตสาหกรรมต่างๆ ให้ย้ายฐานการผลิตมาประเทศไทยนั้น ล่าสุด เมื่อวันอังคารที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา ได้มีการจัดประชุมหารือทางธุรกิจผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ระหว่างภาคเอกชนรายใหญ่ของไทยกับทางผู้ประกอบการโรงงานไต้หวันกว่า 40 โรงงานขนาดใหญ่ เข้าร่วมการประชุมกับทางผู้ประกอบการของประเทศไทย ได้แก่ บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (WHA) บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (AMATA) บริษัทเจซีเค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (JCK) Yamoto และบริษัท ไทยฮั้วยางพารา จำกัด (มหาชน) ส่วนจะมีมูลค่าการลงทุนเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใดไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขได้ แต่มีสิทธิที่จะไปถึง 100,000 ล้านบาท

"เรื่องเทรดวอร์เป็นประเด็นใหญ่ที่ทำให้อุตสาหกรรมที่อยู่ในประเทศที่เป็นคู่กรณี ต้องปรับตัว ส่วนการเจรจาจะสำเร็จถึงระดับไหน คงต้องใช้เวลา เนื่องจากการย้ายฐานอุตฯ ต้องใช้เวลานาน แต่หากมีการลงทุนเกิดขึ้น จะเป็นผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทย มีการต่อยอดไปสู่ธุรกิจอื่นๆ เช่น ภาคอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากจะมีบุคลากรเดินทางเข้ามาประเทศไทย ส่งผลให้เกิดความต้องการในด้านที่อยู่อาศัย ส่งเสริมภาคการท่องเที่ยว เกิดความต้องการใช้พื้นที่อาคารสำนักงาน เฉพาะการซื้อที่ดินเพื่อก่อสร้างโรงงาน มีมูลค่าหลายพันล้านบาท หากนับรวมตัวโรงงาน เครื่องจักร และอื่นๆ แล้ว จะมีมูลค่าหลักหมื่นล้านบาท ที่สำคัญจะเกิดการจ้างงานไม่ต่ำกว่าหลายพันคนต่อโรงงาน กระตุ้นให้เกิดการส่งออกที่มากขึ้น สิ่งสำคัญ รัฐบาลต้องมองเห็นโอกาส ต้องสร้างแรงจูงใจให้เกิดขึ้น ลดภาษีเครื่องจักร ภาษีนิติบุคคล เรื่องแรงงาน ระบบสาธารณูปโภคและเสถียรภาพของรัฐบาล เพื่อให้มีความได้เปรียบและสามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้"

เศรษฐีจีน-ฮ่องกง-ไต้หวัน ซื้อคอนโดฯ ยกชั้น
หวังส่วนลด 35-40%

สำหรับการเคลื่อนไหวของนักลงทุนที่เข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทย พบว่า เป็นกลุ่มลูกค้าเศรษฐีจากประเทศจีน ฮ่องกง ไต้หวัน มีความต้องการซื้อยกชั้นคอนโดฯ เพื่อให้ไดัรับส่วนลดประมาณ 35-40% ซึ่งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวได้เข้ามาซื้อผ่านพอร์ตของบริษัทแองเจิลฯ หลายร้อยล้านบาท เน้นคอนโดฯ ที่อยู่ในทำเลไพรม์เอเรีย หรือโครงการติดแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากห้องชุดที่มีอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูง จะมีซัปพลายคงเหลือในตลาดในจำนวนไม่มาก

ทั้งนี้ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านการตลาดและการขาย (โบรกเกอร์) ได้มีการปรับตัวค่อนข้างมาก หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 บริษัทโบรกเกอร์ต่างชาติทั่วโลก ปิดกิจการไปประมาณ 50% ในส่วนของประเทศไทย โบรกเกอร์ที่เคยมีอยู่ประมาณ 100-200 ราย ปัจจุบันคงเหลือรายใหญ่ในตลาดไม่กี่ราย ซึ่งมีผลให้การแข่งขันในตลาดไม่รุนแรง

"โบรกเกอร์ในไทยได้รับผลกระทบมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในปีที่ผ่านมา ซ้ำเกิดโควิด-19 ส่งผลให้หลายแห่งต้องเปลี่ยนธุรกิจใหม่ ปรับตัวเพื่อให้อยู่รอด ไม่เน้นการทำตลาดกับต่างประเทศมากนัก ลดขนาดธุรกิจลง เปลี่ยนวิธีการทำงานมาบริการลูกค้ามากขึ้น บริหารการเช่าให้แก่ลูกค้า เพื่อให้เกิดความประทับใจในการบริการ และกลับมาซื้อสินค้ากับบริษัทอีกครั้ง รวมถึงการทำตลาดออนไลน์ ขณะที่ผู้พัฒนาโครงการควรมาพิจารณาในเรื่องการปรับลดราคาลง จูงใจลูกค้าให้ตัดสินใจเร็วขึ้น ซึ่งประเทศอื่นๆ ก็มีปัญหาเหมือนไทย พยายามดึงผู้ซื้อเข้าประเทศให้มากที่สุด หากผู้ประกอบการไทยยังไม่ตื่นก็คงลำบาก"

นายไซม่อน กล่าวเสริมว่า ในส่วนของบริษัทแองเจิลฯ ปรับกลยุทธ์มาเจาะกลุ่มลูกค้าคนไทยเพิ่มขึ้น (ไทยโควตา) เน้นโครงการคอนโดฯ ที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัย เพื่อรองรับตลาดการปล่อยเช่าให้แก่ลูกค้าคนไทยและต่างชาติ คาดว่าในปี 2564 พอร์ตโควตาไทยจะมีมูลค่าเฉลี่ย 500 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทแองเจิลฯ จะมียอดขายหลักพันล้านบาท ยอดโอนกรรมสิทธิ์ จำนวน 3,600 ห้อง มูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท เนื่องจากหลายโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จในปีนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น