"แองเจิลฯ" โบรกเกอร์โควต้าต่างชาติรายใหญ่ในไทย หนุนรัฐให้สิทธิ์ วีซ่า ยาว 9 เดือน จูงใจให้ลูกค้าต่างชาติรีบกลับมาโอนห้องชุดเร็วขึ้น แนะรัฐไฟเขียว พาสปอร์ตยาว แลกกับการลงทุนซื้อคอนโดฯ มูลค่า 5-10 ล้าน พร้อมประสานอุตฯไต้หวัน
นายไซม่อน ลี ประธานกรรมการ บริษัทแองเจิล เรียลเอสเตท คอนซัลแทนซี่ จำกัด หรือ ARE บริษัทที่ปรึกษาด้านการตลาดและขายชั้นนำของประเทศไทย โดยเฉพาะโควต้าต่างประเทศ โบรกเกอร์รายใหญ่ที่ทำตลาดในภูมิภาคเอเชีย กล่าวสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยให้สิทธิต่างชาติในการเข้ามาพำนักประเทศไทยนานขึ้น ซึ่งล่าสุดครม.ได้อนุมัติในเรื่องการถือครองวีซ่าพิเศษเที่ยวในประเทศไทยได้นาน 9 เดือน มาตรการนี้จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าต่างชาติ ที่ได้วางดาวน์โครงการคอนโดมิเนียมก่อนหน้านี้ ตัดสินใจรีบมาดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ในห้องชุดให้แล้วเสร็จ หลังจากช่วงปิดประเทศ (ล็อกดาวน์)ไม่สามารถทำธุรกรรมดังกล่าวได้
"กลุ่มลูกค้าต่างชาติ ที่ต้องการได้พาสปอร์ต เป็นตลาดที่ใหญ่มาก อย่างเช่น ประเทศอังกฤษจะให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้มาลงทุน หรือซื้ออสังหาฯ วงเงิน 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประเทศตุรกี ผู้ที่เข้ามาลงทุนตั้งแต่ 250,000 เหรียญสหรัฐฯ จะได้สัญชาติตุรกี และถือพาสปอร์ต เพื่อเดินทางไปสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศอียูได้ ในส่วนของประเทศไทย หากกำหนดเงินลงทุน 5 ถึง 10 ล้านบาท มีระยะเวลาการถือพาสปอร์ตได้ 5 ถึง10 ปี จะกระตุ้นให้ตลาดคอนโดฯได้รับความนิยม และขยายตัวมากขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ต้องรอความชัดเจนสิทธิประโยชน์จากรัฐบาล เพื่อนำมาวิเคราะห์ถึงผลที่มีต่อลูกค้าต่างชาติได้ แต่ส่วนตัว มองมาตรการของภาครัฐ เป็นเชิงบวก"
ไต้หวันพร้อมลงทุนในไทยมูลค่าแสนล.
สำหรับความคืบหน้าในธุรกิจใหม่ ได้ปรับกลยุทธ์มาเจาะกลุ่มฐานลูกค้าอุตสาหกรรมต่างๆ ให้ย้ายฐานการผลิตมาประเทศไทยนั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมาได้มีการหารือทางธุรกิจ ผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ระหว่างภาคเอกชนรายใหญ่ของไทย กับผู้ประกอบการโรงงานขนาดใหญ่ของไต้หวัน กว่า 40 โรงงาน เข้าร่วมหารือ อาทิ บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (WHA),บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (AMATA),บริษัทเจซีเค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (JCK),Yamotoและบริษัท ไทยฮั้วยางพารา จำกัด (มหาชน) ส่วนจะมีมูลค่าการลงทุนเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใด ไม่สามารถระบุได้ แต่มีสิทธิ์ที่จะไปถึง1แสนล้านบาท
"เรื่องเทรดวอร์ เป็นประเด็นใหญ่ที่ทำให้อุตสาหกรรมที่อยู่ในประเทศที่เป็นคู่กรณี ต้องปรับตัว ส่วนการเจรจาจะสำเร็จถึงระดับไหน คงต้องใช้เวลา เนื่องจากการย้ายฐานอุตฯ ต้องใช้เวลา แต่หากมีการลงทุนเกิดขึ้นจะเป็นผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทย มีการต่อยอดไปสู่ธุรกิจอื่นๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากจะมีบุคลากรเดินทางเข้ามาประเทศไทย เกิดความต้องการด้านที่อยู่อาศัย ส่งเสริมการท่องเที่ยว ต้องการใช้พื้นที่อาคารสำนักงาน เฉพาะการซื้อที่ดินเพื่อก่อสร้างโรงงาน ก็มีมูลค่าหลายพันล้านบาท หากนับรวมตัวโรงงาน เครื่องจักร และอื่นๆ แล้ว จะมีมูลค่าหลักหมื่นล้านบาท ที่สำคัญจะเกิดการจ้างงานไม่ต่ำกว่าหลายพันคน ต่อโรงงาน กระตุ้นให้เกิดการส่งออกที่มากขึ้น สิ่งสำคัญรัฐบาลต้องมองเห็นโอกาส ต้องสร้างแรงจูงใจให้เกิดขึ้น ลดภาษีเครื่องจักร ภาษีนิติบุคคล เรื่องแรงงาน ระบบสาธารณูปโภค และเสถียรภาพของรัฐบาล เพื่อให้มีความได้เปรียบและสามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้"
สำหรับการเคลื่อนไหวของนักลงทุนที่เข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทย พบว่า เป็นกลุ่มลูกค้าเศรษฐีจากประเทศจีน ฮ่องกง ไต้หวัน มีความต้องการซื้อยกชั้นคอนโดฯ เพื่อให้ไดัรับส่วนลด 35-40 % ซึ่งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ลูกค้ากลุ่มดังกล่าว ได้เข้ามาซื้อผ่านพอร์ตของบริษัทแองเจิลฯ หลายร้อยล้านบาท เน้นคอนโดฯ ที่อยู่ในทำเลไพรม์เอเรียล หรือโครงการติดแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากห้องชุดที่มีอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูง จะมีซัพพลายคงเหลือในตลาดในจำนวนไม่มาก
นายไซม่อน ลี ประธานกรรมการ บริษัทแองเจิล เรียลเอสเตท คอนซัลแทนซี่ จำกัด หรือ ARE บริษัทที่ปรึกษาด้านการตลาดและขายชั้นนำของประเทศไทย โดยเฉพาะโควต้าต่างประเทศ โบรกเกอร์รายใหญ่ที่ทำตลาดในภูมิภาคเอเชีย กล่าวสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยให้สิทธิต่างชาติในการเข้ามาพำนักประเทศไทยนานขึ้น ซึ่งล่าสุดครม.ได้อนุมัติในเรื่องการถือครองวีซ่าพิเศษเที่ยวในประเทศไทยได้นาน 9 เดือน มาตรการนี้จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าต่างชาติ ที่ได้วางดาวน์โครงการคอนโดมิเนียมก่อนหน้านี้ ตัดสินใจรีบมาดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ในห้องชุดให้แล้วเสร็จ หลังจากช่วงปิดประเทศ (ล็อกดาวน์)ไม่สามารถทำธุรกรรมดังกล่าวได้
"กลุ่มลูกค้าต่างชาติ ที่ต้องการได้พาสปอร์ต เป็นตลาดที่ใหญ่มาก อย่างเช่น ประเทศอังกฤษจะให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้มาลงทุน หรือซื้ออสังหาฯ วงเงิน 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประเทศตุรกี ผู้ที่เข้ามาลงทุนตั้งแต่ 250,000 เหรียญสหรัฐฯ จะได้สัญชาติตุรกี และถือพาสปอร์ต เพื่อเดินทางไปสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศอียูได้ ในส่วนของประเทศไทย หากกำหนดเงินลงทุน 5 ถึง 10 ล้านบาท มีระยะเวลาการถือพาสปอร์ตได้ 5 ถึง10 ปี จะกระตุ้นให้ตลาดคอนโดฯได้รับความนิยม และขยายตัวมากขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ต้องรอความชัดเจนสิทธิประโยชน์จากรัฐบาล เพื่อนำมาวิเคราะห์ถึงผลที่มีต่อลูกค้าต่างชาติได้ แต่ส่วนตัว มองมาตรการของภาครัฐ เป็นเชิงบวก"
ไต้หวันพร้อมลงทุนในไทยมูลค่าแสนล.
สำหรับความคืบหน้าในธุรกิจใหม่ ได้ปรับกลยุทธ์มาเจาะกลุ่มฐานลูกค้าอุตสาหกรรมต่างๆ ให้ย้ายฐานการผลิตมาประเทศไทยนั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมาได้มีการหารือทางธุรกิจ ผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ระหว่างภาคเอกชนรายใหญ่ของไทย กับผู้ประกอบการโรงงานขนาดใหญ่ของไต้หวัน กว่า 40 โรงงาน เข้าร่วมหารือ อาทิ บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (WHA),บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (AMATA),บริษัทเจซีเค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (JCK),Yamotoและบริษัท ไทยฮั้วยางพารา จำกัด (มหาชน) ส่วนจะมีมูลค่าการลงทุนเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใด ไม่สามารถระบุได้ แต่มีสิทธิ์ที่จะไปถึง1แสนล้านบาท
"เรื่องเทรดวอร์ เป็นประเด็นใหญ่ที่ทำให้อุตสาหกรรมที่อยู่ในประเทศที่เป็นคู่กรณี ต้องปรับตัว ส่วนการเจรจาจะสำเร็จถึงระดับไหน คงต้องใช้เวลา เนื่องจากการย้ายฐานอุตฯ ต้องใช้เวลา แต่หากมีการลงทุนเกิดขึ้นจะเป็นผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทย มีการต่อยอดไปสู่ธุรกิจอื่นๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากจะมีบุคลากรเดินทางเข้ามาประเทศไทย เกิดความต้องการด้านที่อยู่อาศัย ส่งเสริมการท่องเที่ยว ต้องการใช้พื้นที่อาคารสำนักงาน เฉพาะการซื้อที่ดินเพื่อก่อสร้างโรงงาน ก็มีมูลค่าหลายพันล้านบาท หากนับรวมตัวโรงงาน เครื่องจักร และอื่นๆ แล้ว จะมีมูลค่าหลักหมื่นล้านบาท ที่สำคัญจะเกิดการจ้างงานไม่ต่ำกว่าหลายพันคน ต่อโรงงาน กระตุ้นให้เกิดการส่งออกที่มากขึ้น สิ่งสำคัญรัฐบาลต้องมองเห็นโอกาส ต้องสร้างแรงจูงใจให้เกิดขึ้น ลดภาษีเครื่องจักร ภาษีนิติบุคคล เรื่องแรงงาน ระบบสาธารณูปโภค และเสถียรภาพของรัฐบาล เพื่อให้มีความได้เปรียบและสามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้"
สำหรับการเคลื่อนไหวของนักลงทุนที่เข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทย พบว่า เป็นกลุ่มลูกค้าเศรษฐีจากประเทศจีน ฮ่องกง ไต้หวัน มีความต้องการซื้อยกชั้นคอนโดฯ เพื่อให้ไดัรับส่วนลด 35-40 % ซึ่งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ลูกค้ากลุ่มดังกล่าว ได้เข้ามาซื้อผ่านพอร์ตของบริษัทแองเจิลฯ หลายร้อยล้านบาท เน้นคอนโดฯ ที่อยู่ในทำเลไพรม์เอเรียล หรือโครงการติดแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากห้องชุดที่มีอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูง จะมีซัพพลายคงเหลือในตลาดในจำนวนไม่มาก