ผู้ถือหุ้นโหวต "ณพ" พ้น "วินด์ เอนเนอร์ยี่"

ผู้ถือหุ้น "วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง" โหวตปลด " ณพ ณรงค์เดช " จากการเป็นกรรมการบริษัท เหตุมีคดีความฟ้องร้องพัวพันหลายคดี อีกทั้งลากเข้าไปเกี่ยวข้อง ทำให้ถูกฟ้องร้องเป็นคดีความ สร้างความเสียหาย กระทบชื่อเสียง พร้อมตั้ง "ประเดช กิตติอิสรานนท์" เข้าเสียบแทน

วานนี้ (10 ก.ย.) บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) ได้จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2563 มีผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุมฯราว 200 ราย โดยผู้ถือหุ้นได้โหวตลงมติอนุมัติปลดนายณพ ณรงค์เดช ออกจากการเป็นกรรมการบริษัท ด้วยคะแนนเสียง 54.99% และไม่เห็นด้วย 45.01% สืบเนื่องจาก นายณพ ถูกฟ้องร้องหลายคดี ทำให้บริษัทฯถูกฟ้องร้องเป็นคดีความด้วยเช่นกันทำให้กระทบต่อชื่อเสียงและสร้างความเสียหายต่อบริษัท

โดยที่ประชุมได้มีมติแต่งตั้งให้นายประเดช กิตติอิสรานนท์ เข้ามาเป็นกรรมการแทน ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 56.9638% และไม่เห็นด้วย 43.0361%

สำหรับบรรยากาศในที่ประชุมครั้งนี้มีนายวิชัย ทองแตง ประธานกรรมการกล่าวเปิดประชุม ขณะที่ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ยังคงซักถามกรณีความคืบหน้าคดีและความโปร่งใส รวมทั้งความคืบหน้าการนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งนายณพ ได้กล่าวชี้แจงคดีการฟ้องร้องต่างๆ พร้อมกับยืนยันความโปร่งใส รวมทั้งการนำ WEH เข้าจดทะเบียนในตลาดฯ ที่คาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ได้ภายในสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้า

แต่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นยังคงลงมติที่จะให้นายณพ พ้นจากบอร์ด ซึ่งนายณพ กล่าวก่อนออกจากที่ประชุมว่า ฝากผู้ที่จะเข้ามาทำงานแทน ขอให้พาบริษัทไปให้ถึงฝัน ฝากเรื่องที่ดินที่ยังทำไม่เสร็จ และโครงการใหม่ด้วย

อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นได้แสดงความกังวลถึงกรณี Project Finance จำนวน 8 โครงการ รวม 3.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งในสัญญาเงินกู้กับธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ระบุว่าห้ามเปลี่ยนแปลงผู้บริหารของ WEH หากมีการเปลี่ยนตัวผู้บริหารสัญญาก็ถูก defult ทันทีนั้น ได้มีการชี้แจงว่าก่อนหน้านี้ได้ส่งหนังสือไปยังสถาบันการเงินดังกล่าว เพื่อสอบถาม ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้นขึ้นกับการตัดสินใจขึ้นกับแบงก์

สำหรับคดีความของนายณพ กับนายนพพร ศุภพิพัฒน์ ผู้ถือหุ้นเดิม และคดีกับครอบครัวณรงค์เดช ก็อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล โดยนายนพพร ฟ้องศาลที่ประเทศอังกฤษ

ด้านผลประกอบการของ WEH ในปี 2562 มีรายได้กว่า 12,000 ล้านบาท กำไร 5,888 ล้านบาท และมีกำไรสะสม 5,975 ล้านบาท หลังจากโรงไฟฟ้าพลังลมทั้ง 8 โครงการจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ครบหมดแล้ว