การชูประเด็นนำบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้ นายประเดช กิตติอิสรานนท์ นักลงทุนรายใหญ่ ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของ WEH อีกกลุ่มได้รับชัยชนะ การลงมติของผู้ถือหุ้น ปลด นายณพ ณรงค์เดช ออกจากการเป็นกรรมการบริษัท และนายประเดช เข้าไปเสียบแทน
แต่มีคำถามว่า เมื่อนายณพ พ้นจากตำแหน่งกรรมการ และจะต้องพ้นจากการเป็นผู้บริหาร โดยนายประเดช จะเข้ามากุมอำนาจการบริหารแทน WEH จะเข้าตลาดหุ้นได้จริงหรือ
การประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา ที่ประชุมมีมติปลดนายณพ ด้วยคะแนนเสียง 54.98% ต่อ 45.01% ของผู้ถือหุ้นที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมด และแต่งตั้งนายประเดช เข้าไปเป็นกรรมการแทน
นายณพ ถูกโจมตีว่าเป็นตัวปัญหา ทำให้ WEH ไม่สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ เนื่องจากมีคดีฟ้องร้องมากมาย โดยเฉพาะการฟ้องร้องกรณีการซื้อขายหุ้นกับนายนพพร ศุภพิพัฒน์ ผู้ถือหุ้นเดิม
ประเด็นของนายณพ จบลงแล้ว เมื่อถูกปลดออกจากการเป็นกรรมการบริษัท แต่การผลักดัน WEH เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่นายประเดช จะสมใจ
เพราะ นายประเดช กำลังจะถูกนายณพ ฟ้อง เรื่องการซื้อขายหุ้นจำนวนประมาณ 14 ล้านหุ้น หรือประมาณ 13% ของทุนจดทะเบียน
ถ้านายณพ ฟ้องนายประเดช จะเกิดกรณีซ้ำรอย กรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่มีคดีถูกฟ้อง ถูกแจ้งอายัดหุ้น เช่นเดียวกับกรณีนายณพ ถูกนายนพพร ฟ้อง
ฝันการนำ WEH เข้าตลาดหุ้น เพื่อผู้ถือหุ้นเดิมทั้งรายใหญ่รายย่อยจะเทขายทำกำไร จะ กลายเป็นฝันค้างต่อไป
หรือถ้านายณพ เกิดอยากจะตีรวนขึ้นมา คัดค้านการนำหุ้นเข้าจดทะเบียน ไม่ยอมนำหุ้นเข้าสู่ช่วงไซเลนต์ พีเรียด หรือช่วงเวลาห้ามขายหุ้น WEH ก็เข้าจดทะเบียนไม่ได้อยู่ดี เพราะกลุ่มนายณพ ถือหุ้นในสัดส่วนประมาณ 40%
หุ้น WEH จะเข้าตลาดหุ้นได้หรือไม่ ไม่เกี่ยวกับนักลงทุนทั่วไป แต่จะเกี่ยวเฉพาะผู้ถือหุ้นจำนวนกว่า 200 รายของ WEH เท่านั้น
เพราะถ้าไม่ได้เข้า ผู้ถือหุ้น WEH ต้องการทำกำไรจากหุ้นตัวนี้ในตลาดหลักทรัพย์ต้องผิดหวัง โดยเฉพาะผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวนกว่า 100 คน ที่ได้รับการติดต่อจาก ดร.ก้อง เกียรติ โอภาสวงการ ผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด ให้เข้ามาซื้อหุ้น WEH
การนำหุ้น WEH เสนอขายให้นักลงทุนรายย่อย โดยไม่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ยังมีปัญหาว่า เป็นการเสนอขายหุ้นที่ผิดกฎหมายหรือไม่
ภารกิจสำคัญของกรรมการ WEH คนใหม่นายประเดช คือ จะต้องเข็น WEH เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ให้ได้
แต่ภารกิจของ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์คือ จะต้องพิจารณากลั่นกรองหุ้นตัวนี้อย่างละเอียดรอบคอบ เพราะเห็นเจตนาชัดว่า จะมีผู้ถือหุ้นเดิมทั้งรายย่อยและรายใหญ่ วางเป้าหมายแล้วจะขายหุ้นกอบโกยความมั่นคั่ง เมื่อหุ้น WEH เข้าซื้อขายในตลาดหุ้น
นักลงทุนรายย่อยในตลาดหุ้นอาจจะตกเป็นเหยื่อของการแปรธาตุหุ้น WEH
จะมีคนร่ำรวยจากหุ้นตัวนี้ เมื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งสื่อมวลชนสายตลาดหุ้นบางคนที่อาจได้รับข้อเสนอโควตาจองล่วงหน้า
ยังไม่ทันเข้าตลาดหุ้น WEH ก็มีข่าวกระฉ่อนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปัญหาความขัดแย้งระหว่างผู้ถือหุ้นใหญ่ดำเนินมานับสิบปี และถ้ายังดำเนินต่อไปจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้อย่างไร
WEH ยื่นขอกระจายหุ้นและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อไหร่ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ต้องกลั่นกรองเป็นพิเศษในทุกมิติ โดยเฉพาะการเทขายหุ้นทิ้งเมื่อเข้าตลาดหุ้น