ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดเศรษฐกิจไทยในปี 2563 จะหดตัวอยู่ที่ร้อยละ 8 จากเดิมที่คาดว่าจะหดตัวร้อยละ 5 เนื่องจากขาดปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบกับความกังวลด้านการเมืองในประเทศ
นายทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) กล่าวว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 น่าจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หนักที่สุดไปแล้ว โดยประเมินว่าจากนี้จะเห็นการฟื้นตัวอย่างช้าๆ เนื่องจากปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศยังอ่อนกำลัง ในขณะที่ปัจจัยภายนอกที่จะช่วยผลักดันการเติบโตยังคงมีความไม่แน่นอน
"เรายังไม่เห็นกลยุทธ์การพัฒนาหลังพ้นช่วงโควิด-19 ที่ชัดเจนของไทย เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากปัจจัยการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่พึ่งพิงภายนอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวจีน ประเด็นนี้จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างเป็นระบบในระยะกลางเพื่อให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน" นายทิม กล่าวทิ้งท้าย
ธนาคารฯ คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในไตรมาส 3 และปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในไตรมาส 4 เนื่องจากเหลือโอกาสให้ปรับลดได้จำกัด อย่างไรก็ตาม ธนาคารฯ ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2564 ขึ้นเป็นเติบโตร้อยละ 2 จากเดิมที่คาดจะเติบโตร้อยละ 1.8 เพื่อสะท้อนฐานการเติบโตที่คาดว่าจะต่ำลงในปีนี้