xs
xsm
sm
md
lg

อีสเทิร์นโพลีเมอร์ เผยผลประกอบการไตรมาสแรก ปี 63/64 (เม.ย.-มิ.ย.63) มีรายได้จากการขาย 1,952 ล้านบาท กำไรสุทธิ 75 ล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



EPG เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรก ปี 63/64 (เม.ย.-มิ.ย.63) ภายใต้การแพร่ระบาดโควิด-19 มีรายได้จากการขาย 1,952 ล้านบาท กำไรสุทธิ 75 ล้านบาท

รศ.ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์และพลาสติกแปรรูปชั้นนำของโลก เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ต้องหยุดชะงักจากมาตรการปิดเมืองเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ในหลายประเทศ อย่างไรก็ตาม บริษัทได้นำนโยบาย “USE” (U : Utilization การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า S : Save การประหยัดค่าใช้จ่าย และ E : Efficiency การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน) มาใช้บริหารงานภายในองค์กร เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายบางส่วน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสที่ 1 ปี 63/64 (เม.ย.63-มิ.ย.63) บริษัทมีรายได้จากการขาย 1,952.2 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 2,672.4 ล้านบาท หรือลดลง 27.0% แม้ยอดขายลดลงแต่สามารถรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นได้ที่ 28.9% และมีกำไรสุทธิ 74.6 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 215 ล้านบาท หรือลดลง 65.3% ทั้งนี้ การดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจ EPG ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ดังนี้

ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex มีรายได้จากการขาย 635.4 ล้านบาท หรือลดลง 16.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากอุปสงค์ของฉนวนแอร์โรเฟลกซ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศลดลงอย่างมีนัยสำคัญ สอดคล้องต่ออุตสาหกรรมที่มียอดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างปรับลดลงจากการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ อีกทั้งเกิดความล่าช้าจากกระบวนการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ

ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Aeroklas มียอดขายรวม 751.6 ล้านบาท หรือลดลง 41.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากค่ายรถยนต์หลายแห่งในประเทศประกาศหยุดการผลิตชั่วคราวตั้งแต่สิ้นเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2563 จึงทำให้กลุ่มลูกค้า OEM (Original Equipment Manufacturer) ได้รับผลกระทบพอสมควร แต่แอร์โรคลาส ไม่ได้ผลิตเพื่อส่งลูกค้ากลุ่ม OEM เพียงเท่านั้น แต่ผลิตสินค้าขายให้ลูกค้ากลุ่ม After Market และโชว์รูมรถยนต์ด้วย ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ต้องการติดตั้งชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ ได้แก่ พื้นปูกระบะ (Bed Liner) หลังคารถกระบะ (Canopy) เป็นต้น สำหรับกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ ได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ที่ลดลง และความล่าช้าจากการขนส่งชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ และธุรกิจในประเทศออสเตรเลีย มียอดขายชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ลดลงเช่นกัน อย่างไรก็ตามในเดือนมิถุนายน 2563 เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้น

ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP มียอดขายรวม 565.1 ล้านบาท หรือ ลดลง 9.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ผลกระทบจากการอุปโภคบริโภคภายในประเทศลดลง ทำให้ยอดขายบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทถ้วยน้ำดื่มลดลง แต่ได้รับประโยชน์จากบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภท กล่องใส่อาหารชดเชยบางส่วนจากการที่ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยสั่งอาหารเดลิเวอรีมากขึ้น

บริษัทมีต้นทุนขายสินค้าลดลง 27.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับผลประโยชน์จากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลง และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 18.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

อีกหนึ่งประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิของบริษัท คือ บริษัทได้ปฏิบัติตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน TFRS 9 และ TFRS 16 มีผลต่อการจัดประเภทรายการใหม่และการวัดสินทรัพย์ทางการเงินและหนี้สินทางการเงิน โดยบันทึกผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและขาดทุนอื่น เป็นจำนวน 17.9 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทได้รับส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าที่ 20.7 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทร่วมทุนที่ผลิตสินค้าเพื่อขายให้อุตสาหกรรมยานยนต์ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ และการแพร่ระบาดของโรค Covid-19

"แนวโน้มธุรกิจของบริษัทในปีบัญชี 63/64 (เม.ย.63-มี.ค.64) บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้จากการขายที่ 9,000 ล้านบาท รักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นที่ 28-30% โดยหวังเป็นอย่างยิ่งหากสถานการณ์ดีขึ้นและเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวดี EPG จะสามารถกลับสู่การเติบโตใกล้เคียงกับสภาวะปกติได้โดยเร็ว" รศ.ดร.เฉลียว กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น