หลังจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ยื่นขอฟื้นฟูกิจการ บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK ก็ประกาศยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการตามมา และทำให้นักลงทุนพากันเทขายหุ้นสายการบินแห่งนี้ทันที
คณะกรรมการ NOK ประชุมกันเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดย มีมติยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการและให้เสนอผู้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง เนื่องจากการฟื้นฟูกิจการเป็นแนวทางที่เหมาะสมและดีที่สุดสำหรับการแก้ปัญหาสภาพคล่องทางการเงินชั่วคราวของบริษัท เพื่อให้กิจการดำเนินต่อไป
และการขอฟื้นฟูกิจการไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเลิกกิจการ หรือชำระบัญชี รวมทั้งไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเป็นบุคคลล้มละลาย แต่มีจุดมุ่งหมายที่จะดำเนินธุรกิจให้มีความก้าวหน้า โดยเบื้องต้น จะปรับโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องต่อความสามารถชำระหนี้ของบริษัท การปรับโครงสร้างองค์กร และค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น โดยจะฟื้นฟูกิจการให้เสร็จสิ้นก่อนการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 จะยุติลง
คำชี้แจงเหตุผลการขอฟื้นฟูกิจการ ฟังแล้วดูดี เพราะจะช่วยแก้ปัญหาสภาพคล่อง ทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ และใช้เวลาในการฟื้นฟูกิจการไม่นาน โดยตั้งเป้าว่าจะฟื้นฟูฯ เสร็จสิ้นก่อนจบปัญหาโควิด-19
แต่นักลงทุนอาจมั่นใจว่า การฟื้นฟูฯ จะใช้เวลานานขนาดไหน ฟื้นฟูกิจการได้จริงหรือไม่ จึงพากันเทขายหุ้นทิ้ง ทำให้ราคาหุ้น NOK รูดลงแรง จนสร้างจุดต่ำสุดใหม่นับจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยเมื่อวันจันทร์ที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา ปิดที่ 64 สตางค์
NOK เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2556 หลังจากนำหุ้นเสนอขายนักลงทุนทั่วไปในราคา 26 บาท (พาร์ 1 บาท) โดยราคาหุ้นร่วงลงต่อเนื่อง เพราะผลประกอบการขาดทุนติดต่อหลายปี จนมีปัญหาทางการเงิน และต้องเพิ่มทุนหลายครั้ง
ขณะที่ บริษัท การบินไทย ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ สละสิทธิการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในช่วงหลัง
กลุ่มจุฬางกูร กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ NOK โดยการใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน รวมทั้งจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในส่วนที่บริษัท การบินไทยสละสิทธิด้วย และการเพิ่มทุนครั้งล่าสุด นำหุ้นใหม่ขายผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 3.5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 2.50 บาท กลุ่มจุฬางกูรก็ยังใส่เงินซื้อหุ้นจำนวนมากจนมีสัดส่วนการถือหุ้นกว่า 75% ของทุนจดทะเบียน
แม้กลุ่มจุฬางกูร จะถือหุ้นบริษัทจดทะเบียนนับสิบแห่ง แต่ทุ่มเทการลงทุนใน NOK มากที่สุด ควักเงินเติมทุนแล้วเติมอีก แต่ถม NOK ไม่เต็ม และเมื่อเจอวิกฤตโควิด-19 ซ้ำเติม สายป่านกลุ่มจุฬางกูรจึงทำท่าจะขาด อัดฉีดเงินเข้าไปไม่ไหว และจำเป็นต้องยอมรับสภาพ เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ
ผู้ถือหุ้นรายย่อย NOK มีจำนวนทั้งสิ้น 7,654 ราย และแทบทั้งหมดติดหุ้นต้นทุนสูง ซึ่งส่วนใหญ่คงทำใจแล้ว ไม่สามารถถอนทุนคืนจากหุ้นตัวนี้ได้ในระยะสั้น จำเป็นต้องทนถือหุ้นรอคอยการฟื้นตัวในระยะยาว
แต่ ผู้ถือหุ้นที่ถอดใจ ทยอยขายหุ้นตัดขาดทุนแล้ว เพราะมองว่า การฟื้นฟูกิจการไม่น่าจะสำเร็จเสร็จสิ้นในระยะเวลาอันใกล้ และหุ้น NOK มีแนวโน้มที่จะฟุบหนักต่อไป หากถือไว้ จะเข้าเนื้อหนักกว่าเดิม
กลุ่มจุฬางกูร ปล้ำรัดฟัดเหวี่ยงกับ NOK มาพักใหญ่แล้ว โดยสู้ไม่ถอย ทุ่มเงินไม่อั้น แต่ การยื่นขอฟื้นฟูกิจการ สะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มจุฬางกูรรับมือกับวิกฤต NOK ไม่ไหวเหมือนกัน
ต้องยอมยกธงขาวเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูตามการบินไทย ปล่อยให้หุ้น NOK ทรุดหนักต่อไป และไม่รู้ได้ว่า จุดต่ำสุดอยู่แห่งหนใด