“ชาญศิลป์”มั่นใจได้เป็นผู้เสนอแผนฟื้นฟู การบินไทย แม้ยังมีเจ้าหนี้ไม่เห็นด้วย แต่เป็นส่วนน้อย ลุ้นคำสั่งศาล หลัง 17 ส.ค. เชื่อศักยภาพและจุดแข็ง เร่งปรับโครงสร้าง คาด 3-5 ปี พลิกฟื้นธุรกิจกลับมาได้
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ การบินไทย ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนซึ่งรวมถึงกรมบังคับคดี เพื่อเตรียมความพร้อมในการ อำนวยความสะดวกแก่เจ้าหนี้ในการยื่นคำขอรับชำระหนี้ให้ได้มากที่สุด สำหรับการนัดไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการในวันที่ 17 ส.ค. 2563 พร้อมกับได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมด เพื่อนำเสนอต่อศาลล้มละลายกลาง ซึ่งในวันนัดไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ ศาลล้มละลายกลาง จะพิจารณามีคำสั่ง สำคัญเพียง 2 ประเด็น คือ การบินไทยสมควรได้รับการฟื้นฟูกิจการหรือไม่ และสมควรแต่งตั้งคณะผู้ทำแผนที่การบินไทยเสนอให้เป็นผู้ทำแผนของการบินไทยหรือไม่
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้มีการเจรจาหารือกับเจ้าหนี้หลายภาคส่วน เพื่อสร้างความเข้าใจให้แก่เจ้าหนี้เกี่ยวกับความจำเป็นในการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการของการบินไทย และเจ้าหนี้มีความมั่นใจที่จะให้การสนับสนุนการฟื้นฟูกิจการของการบินไทยต่อไป ซึ่งการเจรจาหารือกับเจ้าหนี้นั้น เป็นไปในทิศทางที่ดี และการบินไทยได้รับการตอบรับ ในเชิงบวกจากเจ้าหนี้มาโดยตลอด
นายชาญศิลป์ คาดว่า เจ้าหนี้ทั้งต่างประเทศและในประเทศประมาณ 70-80% ของจำนวนเจ้าหนี้ที่มีทั้งหมด จะเห็นด้วยกับการที่บริษัทจะจัดทำแผนฟื้นฟู โดยเฉพาะ เจ้าหนี้หุ้นกู้ กว่า 2,000 ราย และสหกรณ์ออมทรัพย์ ที่มีมูลค่าหนี้รวมประมาณ 7 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เห็นด้วยในการฟื้นฟู ซึ่งการฟื้นฟูดีกว่าล้มละลายแน่นอน เพราะยังมีโอกาสในการทำธุรกิจได้ต่อไป การทำแผนฟื้นฟูเพื่อให้มีเงินหมุนเวียนมาทำธุรกิจต่อ
“ กรณีลูกหนี้เสนอตัวของทำแผนฟื้นฟู ขอเจ้าหนี้ 1 ใน3 เห็นด้วย ก็ทำได้ ส่วนกรณีเจ้าหนี้เสนอขอทำแผนเอง จะต้องมีเสียง 2 ใน 3 ผมได้เข้ามาทำหน้าที่รักษาการดีดี กว่า1เดือน ค่อนข้างมั่นใจ และหวังว่า จะได้รับอนุมัติให้จัดทำแผน”
โดยตามขั้นตอน หลังจาก วันที่ 17 ส.ค.นี้ ศาลฯจะพิจารณาก่อนคาดว่าประมาณ 1-2 สัปดาห์จะประกาศว่าจะให้การบินไทยเป็นผู้จัดทำแผนฟื้นฟูหรือไม่ จากนั้นจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา และการบินไทยจะเปิดให้เจ้าหน้าเข้าลงทะเบียนที่บริษัท เพื่อแสดงรายการหนี้และภายใน3เดือน จะจัดทำรายละเอียดแผนฟื้นฟู ซึ่งจะมีการปรับโครงสร้างธุรกิจ ซึ่งมั่นใจว่า การบินไทยจะฟื้นธุรกิจกลับมาได้ภายใน 3-5 ปี ทั้งนี้ ขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจโลก วัคซีนโรคโควิดมาเร็ว การเปิดประเทศเกิดขึ้นเร็ว เป็นปัจจัยที่การบินไทยจะฟื้นกลับมาเร็วขึ้นได้
ทั้งนี้ การบินไทยมีจุดแข็ง เป็นสายการบินที่ดี มีบริการที่ดี แบรนด์ยังแข็งแกร่ง มีบุคลากรที่เก่ง โดยเห็นว่า ในการฟื้นฟู การบินไทยต้องปรับตัวเพื่อให้มีความสามารถในการแข่งขัน ต้องปรับตัว ปรับทัศนคติ วิธีคิด กระบวนการทำงาน ธรรมาภิบาลในองค์กร และมีโอกาสที่จะกลับมารุ่งเรือง และเชื่อว่า ทุกคนยังรักการบินไทย และเห็นว่าเป็นสมบัติของประเทศที่ต้องรักษาไว้
นายวิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย กล่าวว่า จากที่หลายประเทศในยุโรป มีการผ่อนปรน การเดินทางเข้าประเทศประกอบกับความต้องการเดินทางกลับของคนไทยในหลายประเทศ ดังนั้น ในเดือนส.ค.นี้ การบินไทนไทย จะมีการเปิดให้บริการเที่ยวบินพิเศษเส้นทาง. ลอนดอน 3 เที่ยวบิน , แฟรงก์เฟิร์ต 2 เที่ยวบิน , ซิดนีย์ 4-5 เที่ยวบิน และจะมีเฉินตู และนาริตะ โดยภารกิจหลักนอกจากบริการคนไทยแล้ว ยังมีผู้โดยสารต่างประเทศที่ต้องการเดินทางออก และจะให้บริการขนส่งสินค้าไปด้วย
ซึ่งที่ผ่านมาการบินไทยได้จัดเที่ยวบินพิเศา เพื่อรับคนไทยกลับมา โดยร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ เที่ยวบินพิเศษที่จะเปิดเพิ่ม ได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งคนไทยและต่างชาติ