"ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี" เทรดวันแรกปิดที่ 4.14 บาท เพิ่มขึ้น 2.76 บาท หรือพุ่งชนซีลลิ่ง 200% จากราคาไอพีโอที่ 1.38 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 158.57 ล้านบาท ผู้บริหารปลื้มนักลงทุนตอบรับดี เตรียมนำเงินใช้จ้างบุคลากรเพิ่มศักยภาพบริษัท โบรกฯ ประเมินราคาที่ 2 บาท
วานนี้ หุ้นของ บริษัท ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SICT เข้าซื้อขายเป็นวันแรก โดยเมื่อเปิดตลาดราคาหุ้นพุ่งชนซีลลิ่ง 200% ที่ 4.14 บาท จากราคาไอพีโอที่หุ้นละ 1.38 บาท ระหว่างวันราคาหุ้นไม่มีการขยับขึ้นลง เมื่อปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่เดิมคือ 4.14 บาท เพิ่มขึ้น 2.76บาทคิดเป็น 200% มูลค่าซื้อขาย 158.57 ล้านบาท
นายมานพ ธรรมสิริอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SICT เผยว่า พอใจต่อราคาหุ้น SICT ที่เข้าซื้อขายวันนี้เป็นวันแรก ซึ่งราคาเปิดที่ 4.14 บาท เพิ่มขึ้น 200% จากราคาที่เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่หุ้นละ 1.38 บาท สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนเริ่มรู้จักเทคโนโลยีมากขึ้น เพราะบริษัทเป็นผู้พัฒนาไมโครชิปที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของอุปกรณ์ระบบระบุข้อมูลของวัตถุที่ขึ้นทะเบียนด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (RFID) ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก
สำหรับการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ระดมทุนได้ 138 ล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยหุ้น SICT ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของธุรกิจในอนาคตและเทคโนโลยีของบริษัทที่จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยสู่ New S-Curve และหลังจากนี้ SICT ต้องสร้างภาพลักษณ์ให้แก่แบรนด์ อันจะเสริมสร้างภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นให้บริษัทได้ และทุนที่มีจะทำให้บริษัทจ้างบุคลากรที่เก่งๆ ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศให้เข้ามาร่วมงานได้
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าภายในปี 67 จะมีรายได้เติบโตเป็น 2 เท่าตัว หรือแตะ 600 ล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่ารายได้จะเติบโตไม่น้อยกว่าปีก่อนที่ทำไว้ 308.8 ล้านบาท โดยรายได้จะมาจากธุรกิจไมโครชิปสำหรับระบบลงทะเบียนสัตว์ 33-42%, ธุรกิจไมโครชิปสำหรับระบบเข้า-ออกสถานที่ และระบบการอ่านข้อมูล 27-32%, ธุรกิจไมโครชิปสำหรับระบบกุญแจสำรองอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ 25-38% และไมโครชิปอื่นๆ 1-2%
บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ทำบทวิเคราะห์ฯ ประเมินราคาเป้าหมายปี 64 ของ SICT ไว้ที่ 2.00 บาท คาดกำไรปี 2563 เติบโต 33.8% และเติบโตต่อเนื่องในปี 2564 คาดการณ์ยอดคำสั่งที่รับรู้รายได้ในปี 2563 แน่นอนแล้ว 225.5 ล้านบาท ช่วงที่เหลือของปีคาดจะมีคำสั่งเข้ามาอีกทั้งไมโครชิปสำหรับระบบกุญแจอิเล็กทรอนิกส์ตามจำนวนรถยนต์เก่าที่เพิ่มขึ้นในแถบยุโรป และไมโครชิปแท็กลงทะเบียนสัตว์เพิ่มตามจำนวนแกะและวัวที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในออสเตรเลีย ซึ่งคาดหนุนกำไรให้เติบโตในปี 2563 และปี 2564
บล.ทิสโก้ บทวิเคราะห์ฯ ประเมินว่า เนื่องด้วยธุรกิจของ SICT เป็นธุรกิจที่หาตัวเปรียบเทียบได้ยาก การประเมินมูลค่าที่เหมาะสมเบื้องต้นจึงเลือกใช้หุ้นในกลุ่ม TECH ( mai) เป็นตัวเปรียบเทียบแทน โดยมีค่า Median ที่ประมาณ 15.6 เท่า และ Mean ที่ 19 เท่า และหากใช้เป้าหมายการเติบโตเป็นเท่าตัวภายใน 4 ปีของผู้บริหารจะคิดเป็นการเติบโตประมาณ 15% ทำให้จะมีมูลค่าที่เหมาะสมเบื้องต้นที่ 1.70-2.00 บาท