บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง มั่นใจปิดดีลโรงไฟฟ้าเวียดนามได้อีก 1 แห่งในปีนี้ ดันกำลังการผลิตเวียดนามทะลุ 150MW ตามเป้า เผยถูกหั่นสัญญาโครงการสายสื่อสารลงดินเหลือ 4.5 พันล้านบาท จาก 5.1 พันล้านบาทไม่กระทบ เหตุตุน Backlog กว่า 9 พันล้านบาท ส่วนปีนี้มั่นใจรายได้โต 20-25%
น.ส.โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า ภายในสิ้นปีนี้บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถปิดดีลโครงการโรงไฟฟ้าในสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (เวียดนาม) ได้อีกอย่างน้อย 1 โครงการ หลังจากต้นปีสามารถปิดดีลได้แล้ว 1 โครงการ ซึ่งมีกำลังการผลิต 60MW จากเป้าหมายปิดดีลโครงการโรงไฟฟ้าที่เวียดนาม 100-150MW ในปีนี้
ส่วนความคืบหน้าการเข้าร่วมประมูลโครงการโซลาร์ ขนาดกำลังการผลิต 1,000MW ในสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า บริษัทได้แสดงความประสงค์เข้าร่วมประมูลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าจากรัฐบาลพม่า
ฟากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่บริษัทได้เซ็นสัญญากับ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด มูลค่า 5,142 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างโครงการสายสื่อสารลงใต้ดินในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในช่วงไตรมาส 4/63 ได้มีการแก้ไขสัญญาเหลือมูลค่า 4,500 ล้านบาท แต่คาดว่าไม่ส่งผลกระทบมากนัก เนื่องจากบริษัทยังมียอดขายที่รอรับรู้รายได้หลังจากได้มีการโอนสินค้าแล้ว (Backlog)ราว 8-9 พันล้านบาท ซึ่งสามารถรับรู้รายได้ถึงปี 65
คงเป้ารายได้ปีนี้ โต 20-25%
อย่างไรก็ตาม บริษัทประเมินว่ารายได้และกำไรสุทธิในช่วงไตรมาส 2/63 จะเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าในเวียดนามนามขนาด 60MW เป็นไตรมาสแรกเข้ามาช่วยหนุนผลประกอบการ
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้ารายได้ปี 63 เติบโตขึ้น 20-25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่งบลงทุนยังคงเป้าที่ 5 พันล้านบาทต่อปีตามเดิม โดยขณะนี้บริษัทใช้งบลงทุนไปแล้วราว 3 พันล้านบาท จากการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าในเวียดนาม ทำให้บริษัทยังเหลืองบลงทุนอีก 2 พันล้านบาท ในปี 63
โบรกฯ แนะทยอยสะสม เชื่อกำไรครึ่งปีหลังโดดเด่น
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผ่านบทวิเคราะห์ว่า แนะนำ "ทยอยสะสม" หุ้น GUNKUL โดยมีราคาเป้าหมาย 3.35 บาท ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 2/63 ที่ 377 ล้านบาท ลดลง 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากเป็นโลว์ซีซันของโรงไฟฟ้าพลังงานลม แต่การขายไฟฟ้า และธุรกิจพลังงานทดแทนไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19
อย่างไรก็ตาม ประเมินกำไรสุทธิ GUNKUL จะโดดเด่นมากในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของโรงไฟฟ้าพลังงานลม และมี solar farm ที่มาเลเซียที่จะดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) และปีนี้มีลุ้นโครงการในเวียดนามที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 100MW นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มขยายกำลังการผลิตในประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง