ยักษ์อสังหาฯ จากญี่ปุ่น “อนาบูกิ โคซันกรุ๊ป” นำร่องโครงการอยู่อาศัยไทย ชูความเชี่ยวชาญอสังหาฯ ด้านบริการสุขภาพ-ดูแลผู้สูงวัย ตอบโจทย์การพัฒนาที่อยู่อาศัย สู่การพัฒนาสังคมผู้สูงอายุในประเทศไทยอย่างยั่งยืน พร้อมโฟกัสธุรกิจและบริการเกี่ยวกับสังคมผู้สูงวัยอย่างครบวงจร
แหล่งข่าวจาก อนาบูกิ โคซัน กล่าวว่า ANABUKI GROUP เป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ประกอบด้วย บริษัทต่างๆ กว่า 35 บริษัท เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ในฝั่งตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น มูลค่าผลประกอบการในปี 62 มากกว่า 30,000 ล้านบาท โดยดำเนินธุรกิจหลักใน 5 ส่วนงานธุรกิจ ได้แก่ การพัฒนาที่อยู่อาศัยทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยวธุรกิจรับสร้างบ้าน ธุรกิจการเป็นนายหน้าและให้เช่าอสังหาริมทรัพย์
นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจนำเที่ยว ธุรกิจตัวแทนโฆษณา ธุรกิจพลังงาน และธุรกิจซูเปอร์มาร์เกต อนาบูกิยังมีความรู้ในด้าน Medical Care ภายใต้แนวคิด "We support individual freedom" ที่ให้ความสำคัญต่อการอยู่อาศัยที่สะดวกสบาย มีเจ้าหน้าที่กว่า 5,000-6,000 คน เพื่อทำธุรกิจบริการจัดหาที่อยู่อาศัยให้มากกว่า 200,000 ครอบครัวทั่วประเทศญี่ปุ่น และยังจัดเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำธุรกิจ Property Management ซึ่งใหญ่เป็นอับดับที่ 12 ของญี่ปุ่น และยังเปิดการอบรมให้ทั้งพนักงานภายในและผู้ที่สนใจในการเรียนรู้ Property Management ในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้รับบริการอีกด้วย เช่่น โรงเรียน ธุรกิจบันเทิงต่างๆ (Entertainment) Medical Care ผลิตไฟฟ้า และ Supermarket
หากเปรียบเทียบจำนวนประชากรของญี่ปุ่น 125 ล้านคน (50% มีอายุ 60 ปีขึ้นไป) ถือเป็น Super Senior Society ในขณะที่ประชากรของไทย 70 ล้านคน และมีอายุ 60 ปีขึ้นไป ประมาณ 20% ของจำนวนประชากร ภายใน 2 ปีข้างหน้า (2565) สำหรับธุรกิจบริการของอนาบูกิ ที่ให้บริการครอบคลุม และจัดเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้เป็นอย่างมาก ถึงขนาดมีการจัดตั้ง Property Management Academy เพื่อฝึกฝนให้ผู้รับการอบรมมีความรู้ในทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ Property โดยที่ Anabuki สามารถตอบสนอง ให้การสนับสนุนได้ทุกอย่างเพื่อบุคลากรป้อนสู่งานบริการด้านนี้
อย่างไรก็ตาม อนาบูกิ มองว่า บริษัทญี่ปุ่นที่เข้ามาทำธุรกิจด้านอสังหาฯ ในเมืองไทยตอนนี้ ยังไม่มีบริษัทใดทำด้าน Senior Management Business อย่างจริงจัง จึงเล็งเห็นว่า นี่เป็นโอกาสในการนำความรู้ความเชี่ยวชาญของ Anabuki ที่จะนำมาผสมสานร่วมกันกับความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยในเมืองไทยของกลุ่มธนาสิริ ในการมุ่งมั่นที่จะร่วมสร้างครอบครัวในสังคมที่ร่มรื่นและอบอุ่นให้แก่ลูกค้าในทุกช่วงจังหวะชีวิต ร่วมกันเปิดมิติใหม่ของ Propertyในเมืองไทย จึงร่วมกันก่อตั้ง “บริษัท อนาบูกิ ธนาสิริ (ประเทศไทย) จำกัด” ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท ธนาสิริกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กับบริษัท อนาบูกิ โคชัน จำกัด และบริษัท ไทยโคโนอิเกะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในสัดส่วนร้อยละ 50%, 49%และ 1% ตามลำดับ
ทั้งนี้ อนาบูกิ โตซัน เชื่อว่าสังคมที่ดีจะต้องเริ่มต้นจากการมีชุมชนที่ดี ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยใช้หลักการทำงานที่คำนึงถึงคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งสอดคล้องต่อเจตนารมณ์ของธนาสิริ ในการมุ่งมั่นที่จะร่วมสร้างครอบครัวในสังคมที่ร่มรื่นและอบอุ่นให้แก่ลูกค้าในทุกช่วงจังหวะชีวิต เพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ดี ให้ความสำคัญต่อชุมชน โดยบริษัทร่วมทุนดังกล่าวจะทยอยพัฒนาโครงการต่างๆ ร่วมกันในคอนเซ็ปต์ที่จะผสานความเป็นอยู่ของ 3 เจเนอเรชันเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ใช่แค่การพัฒนาที่อยู่อาศัย แต่ต้องการพัฒนาให้เป็น “บ้าน” ที่มีความสุขของสมาชิกทุกคนในครอบครัว
โดยโครงการแรกที่จะพัฒนาคือโครงการ “อนาบูกิ ธนาฮาบิแทต” ด้วยสังคมส่วนตัวเพียง 88 ยูนิต มูลค่าโครงการที่ 600 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพติดถนนใหญ่ใกล้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ โอบล้อมด้วยธรรมชาติสุดร่มรื่นใกล้แม่น้ำจ้าพระยาและติดพื้นสีเขียวขนาดใหญ่โดยจะเปิดตัวประมาณไตรมาส 4/63